“เจมส์จิ” เผยร่วมเชียร์ “เจ ชนาธิป” ที่ญี่ปุ่น ปัดไม่รู้เรื่องปรับนักแสดง “กรงกรรม”
เรียกว่าปีนี้ปังจนคิวงานแน่นทุกวันจริงๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” ที่ตอนนี้ถ่ายทำละครหนึ่งด้าวฟ้าเดียวเสร็จไปเรียบร้อย และตอนนี้มีละครอีกเรื่องคือกรงกรรมที่หลายคนคิดว่ามาเสียบแทนหนุ่ม “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” เจ้าตัวจะว่าอย่างไรบ้าง และล่าสุดเจ้าตัวก็เดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วก็ไปร่วมเชียร์ฟุตบอลทีมซัปโปโรที่หนุ่ม “เจ ชนาธิป สรงกระสินธ์” เข้าร่วมทีมอยู่ในตอนนี้จะเป็นอย่างไร วันนี้มีโอกาสได้เจอหนุ่มเจมส์จิก็เลยให้มาอัพเดทประเด็นเหล่านี้กันหน่อย
ไปญี่ปุ่นรอบนี้ไปเชียร์ "คุณเจ ชนาธิป" ส่วน "พี่เกรท" บังเอิญเจอตอนแรกเขาไปเที่ยวอยู่แล้วพอดีจังหวะบังเอิญตรงกันเขามาซัปโปโรพอดีเลยนัดเจอ จริงๆเราไปทำงานที่ญี่ปุ่นแล้วก็ตั้งใจไปดูคุณเจมันเป็นนัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้รอฤดูกาลหน้าเปิด สนุกสนานแล้วก็เป็นการเล่นที่ดีมากทีมฮอกไกโดก็ชนะด้วย คุณเจเขาก็ให้เสื้อมาเราก็ใส่ไปดู
สำหรับเรื่องงานที่ญี่ปุ่นก็ไปเยี่ยมสื่อนิดหน่อยแล้วก็ไปฝากเนื้อฝากตัวกับผู้ใหญ่ ตอนนี้ยังไม่มีโปรเจ็คพิเศษอะไร ก็มีเจอแฟนๆบ้างทริปนี้มันค่อนข้างเร็วนิดนึงไปนอนคืนเดียวแล้วก็กลับมาเลยไปเมื่อวันก่อนแล้วเมื่อเช้าก็เพิ่งลงเครื่องมา ไม่ได้เที่ยวอะไรเลยถ่ายรูปกับพี่เกรทสองสามใบแล้วก็กลับไม่เสียดายเพราะปกติก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว กับคุณเจก็ได้คุยว่าเป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม ผมว่าเขาก็ชอบที่นั้นซ้อมแบบเป็นระบบอะไรของเขาแล้วก็ได้พัฒนาตัวเองเจอสังคมใหม่ๆ น่าจะได้สิ่งดีๆ กลับมา
ส่วนประเด็นที่หนุ่ม "เจมส์จิ" มาร่วมแสดงในเรื่อง "กรงกรรม" แทน หนุ่ม "อาเล็ก"นั้นเจ้าตัวเผย เรื่องละครตอนที่จบเรื่อง "หนึ่งด้าวฟ้าเดียว" ทางผู้ใหญ่บอกว่างั้นเอาอีกเรื่องนึงเป็นเรื่อง "กรงกรรม" ยังไม่ได้คุยหรือเจอ "อาเล็ก" ไม่ได้ถามผู้ใหญ่เรื่องการปรับเปลี่ยนมันเป็นหน้าที่ของเราคือถ้าเขาให้อะไรมาเราก็ต้องทำงาน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆ เป็นละครที่ค่อนข้างต่างจากที่เคยเล่น ที่เคยเล่นจะน่ารักแต่เรื่องนี้จะค่อนข้างแสดงวิถีชีวิตจะแสดงในเรื่องกรรมต่างๆที่ทำทั้งการกระทำที่ดีและไม่ดีแล้วก็สะท้อนกลับมาถึงผลที่ได้รับ ซึ่งในแต่ละตัวละครก็จะแตกต่างกันไปมันสนุกมากเล่นเหมือนชีวิตปกติเลย เล่นกับ "พี่เบลล่า" สนุกดีแต่รอบนี้ไม่ได้เผ็นคู่กันแต่มาเจอกันคอยช่วยเหลือกัน
ที่ไปร่วมวิ่งกับ "พี่ตูน" มาสนุกมากรอบที่แล้วก็เห็นความตั้งใจของพี่เขาที่ตั้งใจทำเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศไทยเรื่องนี้ทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นคือเขาทำให้ทุกๆคนลุกขึ้นมาดูแลเรื่องสุขภาพเพราะสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะนำเงินไปบริจาคเพื่อสร้างโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล แต่เขาอยากจะทำให้ทุกคนเห็นว่าถ้าเราลุกขึ้นมาออกกำลังกายสักนิดสักหน่อยจะทำให้สุขภาพเราดีขึ้นลดภาระในหลายๆอย่างในโรงพยาบาลไปได้เยอะ วันนั้นวิ่งไปประมาณสามสิบกว่ากิโล เร็วๆ นี้คงจะไปอีก จริงๆ วิ่งอยู่แล้วเพิ่งจะมาฮิตวิ่งตอนหลังๆนี้เองอยากจะออกกำลังกายด้วยแล้วก็ท้าทายตัวเองเพื่อจะลงในสนามต่างๆ ด้วยก็จะลงพวกมาราธอนด้วย ผมเริ่มวิ่งมาสักพักแล้วเมื่อก่อนวิ่งได้นิดเดียวเหนื่อยตื่นเช้ามาวิ่งทุกวันถ้าวันไหนไม่มีงานก็จะตื่นมาวิ่งมันก็เริ่มชนะตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วสุขภาพและจิตใจก็ดีขึ้นเยอะหลังจากออกกำลังกายหนักๆ