สำรวจความพร้อม”ตูน” กับการวิ่ง2,121 กิโลเมตร
ตอนนี้คงไม่มีใครฮอตฮิตมากกว่า “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ “ตูน บอดี้สแลม” นักร้องนำร๊อกเกอร์หนุ่มชื่อดัง ที่ลุกขึ้นมาทำกิจกรรมเพื่อสังคม ด้วยการวิ่งระยะทางไกล 2,121 กิโลเมตร จากใต้สุดถึงเหนือสุด
วันนี้ “ตูน อาทิวราห์” หยุดพัก 1 วัน ก่อนจะวิ่งต่อในวันพรุ่งนี้ และคาดว่าจะเข้าสู่เขตจังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วงค่ำ
เจ้าของส่วนสูง 175 เซนติเมตรกับน้ำหนัก 65 กิโลกรัมที่เป็นขวัญใจทั้งประเทศคนนี้ ว่าไปแล้วถือเป็นคนบอบบาง ไม่ล่ำบึ๊กพอที่จะตัดสินทำกิจกรรมครั้งใหญ่ในชีวิต แต่ด้วย “หัวใจ” ที่เปี่ยมด้วยสาธารณะ ไม่เห็นแก่ตัว จึงเห็นรอยยิ้มของเขาในบางครั้งกับการวิ่งครั้งนี้
หลายคนอาจจะยกให้ “ตูน อาทิวราห์” เป็นฮีโร่ แต่เขาก็ออกมาปฏิเศธ พร้อมบอกผ่านโทรโข่งว่า “ผมไม่ใช่ฮีโร่ แต่ฮีโร่ตัวจริงคือคุณหมอ คุณพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคน นี่คือฮีโร่ที่แท้จริง ส่วนผมนั้นเป็นเพียงสะพานที่เชื่อมโยงน้ำใจคนไทยทุกคนเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม “เบื้องหลัง” การวิ่งครั้งยิ่งใหญ่ของ “ตูน อาทิวราห์” ครั้งนี้ นอกจากจะมีทีมงานที่เคยวิ่งกับเขาเมื่อครั้งที่แล้ว 30 กว่าคน รวมทั้ง “หมอเมย์” ยังมีการเตรียมความพร้อมอีกหลายส่วน
โดยหนึ่งในทีมงานจะต้องสะพายเป้ติดตัว ซึ่งภายในเป้ จะมีกระบอกน้ำ เจลพลังงาน เกลือแร่แบบเม็ด โซดามินต์ และสารให้กล้ามเนื้อ โดยมีสูตรว่าทุก 2.5 กิโลเมตรจะต้องให้ “ตูน” ดื่มน้ำ และทุกครึ่งวันต้องให้สารไม่ให้กล้ามเนื้อสูญหาย
นอกจากนี้ก็จะมีเครื่องดื่มที่หมอผสมไว้ให้ก่อนจะออกวิ่งในแต่ละวันพกติดไว้กระเป๋าเป้ ส่วนการดื่มน้ำนั้นไม่ได้จำกัดว่าจะต้องดื่มเวลาไหน ร้อนมากก็ดื่มบ่อย ในสัดส่วนที่พอดีกับร่างกาย
อีกปัจจัยสำคัญคือ “รถบ้าน” ซึ่งเป็นที่พักของ “ตูน” หลังจากวิ่งจบในแต่ละวัน จะต้องฟื้นฟูร่างกายทันที ด้วยการขึ้นรถบ้าน ซึ่งบนรถจะมีทีมนักกายภาพบำบัดคอยยึดเหยียด ประกบน้ำแข็ง ทำกายภาพ มีหมอคอยดูแลเรื่องการบาดเจ็บ
อุปกรณ์สำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือถังน้ำแข็ง หลังวิ่งจบทุกวันตอนเย็น “ตูน” จะฟื้นฟูร่างกายด้วยการเทน้ำลงในอ่างแล้วเติมน้ำแข็งลงไปเพื่อให้ได้อุณหภูมิ 15 องศา แล้วลงไปแช่เป็นการช๊อกกล้ามเนื้อ 15 นาทีทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นอุปกรณ์เบื้องหลังที่มีส่วนักษาสภาพ “ตูน อาทิวราห์” กับการสร้างประวัติศาสตร์ในครั้งนี้