“สงครามข่าวเช้า” แข่งเดือด ดิจิตอลทีวีปรับทัพสู้ปลายปี
เหลืออีกเพียง 1 เดือนจะสิ้นสุดปี 2560 และไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งจัดเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจดิจิตอลทีวีที่จะโกยเม็ดเงินโฆษณา โดยกลยุทธ์สำคัญของดิจิตอลทีวีมีรายได้สำคัญมาจากช่วงไพรม์ไทม์ และซุปเปอร์ไพรม์ไทม์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาการฉายละคร หรือ ซีรีส์
นอกจากนี้ รายการข่าว ถือเป็นรายการที่ดูดเม็ดเงินโฆษณาเข้าสถานีโทรทัศน์ได้ในสัดส่วนเทียบเท่ากับรายการวาไรตี้ และเกมส์โชว์ นั่นคือ 25 – 30% รองจากละคร ซึ่งกินรายได้เม็ดเงินโฆษณา 40 – 50% ดังนั้น จึงไม่แปลกใจ หากวันนี้เราจะเห็นรายการข่าวถูกจัดอยู่ในผังรายการมากพอกับรายการในรูปแบบวาไรตี้บันเทิงและเกมส์โชว์
แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเช้า ถือเป็นช่วงเวลาปราบเซียนมากที่สุดของดิจิตอลทีวี ดังนั้น รายการข่าวเช้า จึงถูกนำมาเป็นคอนเทนต์สำคัญในการสู้ศึกดิจิตอลทีวี ดึงเรตติ้ง และสร้างรายได้ ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา รายการข่าวเช้า เป็นสนามรบอีกหนึ่งสนามสำคัญสำหรับช่องทีวี และเพิ่มดีกรีความเดือดเมื่อเกิดดิจิตอลทีวีเมื่อปี 2557 โดยรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” เป็นแชมป์รายการข่าวเช้าที่มีเรตติ้งอันดับ 1 มาตลอด
แต่ภายหลังพิธีกรข่าวคนดัง “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ได้ปลดระวางตัวเองออกจากรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” เรตติ้งรายการก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาลดลงตาม รวมทั้ง แชมป์รายการข่าวที่มีเรตติ้งสูงสุดก็ถูกเปลี่ยนมือ โดยจากผลการสำรวจเรตติ้งรายการข่าว โดย เอซีเนลสัน เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ปัจจุบันรายการข่าวเช้าที่มีเรตติ้งสูงสุดเป็นอันดับ 1 คือ รายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ช่อง 7เรตติ้งอยู่ที่ 2.27, รองลงมาคือ รายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” เรตติ้ง 1.30 และอันดับ 3 คือรายการ “คุยข่าวเช้า” ช่อง 8 เรตติ้ง 1.15
วันนี้ ดิจิตอลทีวี ต่างพยายามสร้างสรรรค์รายการข่าวเช้า ที่มีจุดแข็งแตกต่างกัน และสร้างความคึกคักให้สนามข่าวเช้ามีสีสันบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น รายการ เช้านี้...ที่หมอชิต และ รายการ สนามข่าว 7 สี ที่ชูจุดเด่นด้านวาไรตี้ข่าวและกี่รายงานข่าวของคนข่าวภาคสนามที่มากประสบการณ์ ด้านช่อง 8 ขอชูกลยุทธ์เล่าข่าว เข้าใจง่ายในแบบชาวบ้าน เพื่อจับกลุ่มผู้ชมที่มีความหลากหลาย
เช่นเดียวกับ ช่องเวิร์คพอยท์ ก็หันมาแข่งขันในสนามข่าวเช้ากับเขาด้วยเหมือนกัน โดยจับมือกับ เพจ “อีจัน” เพจข่าวสังคมออนไลน์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคน มาเปิดมุมมองใหม่อีกด้านของข่าวเช้าให้ได้ชม และล่าสุดกับช่อง 3 ปรับทัพใหม่กับการดึง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อดีตนักการเมืองและนักธุรกิจอาบอบนวด เจ้าของฉายา “จอมแฉ” มาเสริมทัพข่าวลงพื้นที่ เข้าถึงประชาชน ซึ่งมีรูปแบบและสไตล์คล้าย “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” รวมทั้ง “อดัม แบรดชอว์” อาจารย์สอนภาษาอังกฤษชื่อดัง มาร่วมสร้างสีสัน ยังไม่รวมการดึงทนายชื่อดัง “สงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์” มาร่วมสร้างมิติใหม่ในรายการข่าวทางช่อง 3SD เพิ่มเติมด้วย
คงต้องดูสถานการณ์หลังจากนี้ของช่อง 3 หลังจากการดึง “นักเล่า” ช่างพูดมาทำหน้าที่ดึงผู้ชมอยู่หน้าจอต่อจากนี้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ผู้ชมได้กำไรแน่นอน