“โดนัท” แฮปปี้ทำหนังสารคดี ทุ่มสุดตัวเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว

“โดนัท” แฮปปี้ทำหนังสารคดี ทุ่มสุดตัวเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว

0

“โดนัท” แฮปปี้ทำหนังสารคดี ทุ่มสุดตัวเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว

 

            “โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” ปลื้มทำภาพยนตร์สารคดี “บันทึกทางไกล...ถึงพ่อ (The Journey)” เตรียมเข้าฉายให้ชมฟรีวันที่ 12-15 ตุลาคมนี้

โดนัท มนัสนันท์ ทำหนัง สารคดี ถึงพ่อหลวง

            เป็นหนึ่งในนักแสดงสาวฝีมือคุณภาพที่หันมาทำงานเบื้องหลัง สำหรับ “โดนัท มนัสนันท์” ล่าสุดเจ้าตัวได้จัดทำภาพยนตร์สารคดีเรื่อง “บันทึกทางไกล...ถึงพ่อ (The Journey)” โดยลงมือทำเองพร้อมทีมงานคุณภาพ ซึ่งเป็นการรวบรวมการเดินทางของในหลวง รัชกาลที่ 9 ในปี พ.ศ.2476 ถึง พ.ศ.2494 ผ่านพระราชหัตถเลขา และสาว "โดนัท" ก็ได้เดินทางไปเมืองโลซานด้วยตัวเอง สำหรับการถ่ายทำเรื่องนี้ถึง 3 รอบ โดยจะฉายให้ชมกันฟรีในวันที่ 13-14 ต.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์ SF ทั่วประเทศ ส่วนในวันที่ 12 ต.ค. และ 15 ต.ค. จะฉายในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น โดย "โดนัท" เปิดเผยว่า

โดนัท มนัสนันท์ ทำหนัง สารคดี ถึงพ่อหลวง

            จริงๆ แล้วเราก็ตกใจเหมือนกันกับข่าววันนั้น เราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ โดนัทเลยคิดว่าการที่เราได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่าน ได้เห็นสิ่งที่ท่านทำ หรือได้ไปที่ที่ท่านไป ก็เป็นทางเดียวที่จะเยียวยาความเสียใจจากการสูญเสียของเราได้ พอดีเราจะเดินทางไปยุโรปอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนการเดินทาง อย่างเราจะไปพรุ่งนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นวันนี้เลย แล้วไปโลซานแทน โดนัทเดินทางไปโลซานทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกไปศึกษาข้อมูลก่อนว่าท่านเคยประทับที่ไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง แล้วก็พยายามรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด กลับมาทำรีเสิร์ชต่อที่เมืองไทย แล้วก็กลับไปถ่ายอีกรอบที่ 2 และรอบที่ 3 โดยรอบที่ 3 ก็เอาทีมงานไปด้วย

โดนัท มนัสนันท์ ทำหนัง สารคดี ถึงพ่อหลวง

            การทำงานกับคุณลีซอง พอดีเราได้อ่านหนังสือของเขา ซึ่งได้มีการแปลพระราชหัตถเลขาของในหลวง รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 8 พอเราได้อ่านครั้งแรกก็รู้สึกว่า เป็นบันทึกการเดินทางที่น่าประทับใจ แล้วก็สร้างแรงบันดาลใจให้เรามาก ทีนี้เราก็เลยขอเข้าไปคุยกับเขาว่า อยากจะขอเห็นฉบับจริง เขาก็เล่าให้ฟังว่า ไม่เคยให้ใครมาก่อน เขาก็ยอม เราไป 3 ครั้งกว่าเขาจะยอมให้ถ่าย แล้วระหว่างทางคือ ภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะเล่าเรียงลำดับ เล่าตั้งแต่ปี 1933 คือครั้งแรกที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8, รัชกาลที่ 9, สมเด็จย่า และพระพี่นางฯ ย้ายไปอยู่ที่โลซาน แล้วก็จะเล่าต่อว่า สมัยก่อนท่านจะต้องเดินทางกลับทางเรือ ซึ่งสมัยก่อนจะต้องใช้เวลาการเดินทาง 1 เดือน จากโลซานกลับมาประเทศไทย ท่านก็เขียนพระราชหัตถเลขาเล่าการเดินทาง พอเราได้ไทม์ไลน์แล้วว่า ท่านเดินทางช่วงปีไหนบ้าง เราก็มาดูว่าข้อมูลในช่วงนั้นมีอะไรบ้าง

โดนัท มนัสนันท์ ทำหนัง สารคดี ถึงพ่อหลวง

            ตอนแรกตั้งใจจะทำแค่ในช่วงเวลานั้น แต่พอได้ไปฟังสัมภาษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่เคยพระราชทานสัมภาษณ์ไว้ก็รู้สึกว่า เป็นบทสัมภาษณ์ที่ตอบคำถามทุกข้อ ทุกการเดินทางของพระองค์ เราก็เริ่มค้นไปอีก จริงๆ ก็ยากเหมือนกันนะ ต้องขอบคุณทีม เพราะทุกคนสนับสนุนโดนัทกันสุดๆ คิดว่าที่เรารวบรวมมามีมากกว่าครึ่งที่เป็นแบบ Unseen เป็นรูปและวิดีโอที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเป็นครั้งแรกที่ได้พระราชหัตถเลขาฉบับจริงด้วย สำหรับคุณลีซอง เขาเหมือนเป็นลุงของเราคนหนึ่งไปแล้ว เพราะเราไปสวิตเซอร์แลนด์บ่อยมาก บางทีเขามาเมืองไทยเราก็จะเจอกัน เราแสดงให้เขาเห็นว่าเราอยากจะทำภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ ในด้านที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนดู

โดนัท มนัสนันท์ ทำหนัง สารคดี ถึงพ่อหลวง

            สำหรับเราชอบเดินทางเหมือนกัน เราเชื่อว่าการเดินทางทำให้เราเปลี่ยน ทำให้เราโตขึ้น และที่สำคัญ การเดินทางมีความหมายมาก จากที่เราได้อ่านบันทึกการเดินทางของท่าน ทำให้เราเห็นในช่วงเวลาต่างๆ เราก็พยายามทำให้ถูกต้องที่สุด เราได้ขออนุญาตจากสำนักราชเลขา แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือ ได้ตรวจทานคำราชาศัพท์ คำพูดทุกอย่าง เอกสารที่เราอ้างอิงจากภาพยนตร์เรื่องนี้เราได้มาจากหนังสือ 3 เล่ม คือ เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์, หนังสือเป็นอยู่คือ และหนังสือของคุณลีซอง เราก็มีข้อมูลที่ค่อนข้างถูกต้อง

โดนัท อัพเดท อาการป่วย โหมงานหนัก

            ส่วนการทำเรื่องนี้ก็หนึ่งปีเต็มพอดี แล้วก็หนักมากๆ คือช่วงสองเดือนนี้จริงๆ หนังเพิ่งตัดเสร็จเมื่อวาน แล้วเราก็แฮปปี้มาก โดนัทว่าเรื่องนี้มันไม่ได้สำคัญว่าโดนัทเป็นคนทำ แต่มันสำคัญว่ามีภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้นะ แล้วก็อยากให้คนไทยได้ไปดูกัน แล้วก็ได้รับความสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น โดนัทเคยอ่านในหลวง รัชกาลที่ 9 เคยให้พระราชดำรัสว่า “อย่าสวดอ้อนวอนขอความสำเร็จ แต่ให้สวดอ้อนวอนขอความกล้าหาญ ทุกครั้ง” เราก็จะพูดกันว่าเช้านี้ เราสวดมนต์ขอพรกันหรือยัง ซึ่งทุกคนทำงานหนักมาก การทำสารคดีเรื่องนี้ยิ่งค้นก็ยิ่งเจออะไรที่เราไม่เคยเห็น แล้วเรารู้สึกว่าเป็นบันทึกที่สวยงาม เรารู้สึกทำแล้วมีความสุข ที่ขอบคุณมากๆ คือมีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์ผู้ถวายงานในหลวง รัชกาลที่ 9 ดร.สุเมษ พูดจนร้องไห้เลย จริงๆ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เราร้องไห้ ดร.สุเมษ เล่าว่า ในหลวง รัชกาลที่ 9 ท่านทรงให้พรวันเกิดว่า “งานยังไม่เสร็จ” อันนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราได้ฟังแล้วรู้สึกว่างานยังไม่เสร็จ เราต้องทำต่อ เท่านี้ก็แฮปปี้แล้วที่ได้ทำ อยากให้ทุกคนมาดู

โดนัท มนัสนนัท์ แฟน ป่วย ตาม จำนงค์อาษา ภูมิแพ้ตัวเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments