"แพนเค้ก" ประทับใจร่วมงาน "หม่อมน้อย" เผยเล่น "ศรีอโยธยา" คือความภูมิใจในชีวิต
"แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์" ปลื้มได้ร่วมงาน "หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ใน “ศรีอโยธยา” ถือเป็นประสบการณ์ความภาคภูมิของครั้งหนึ่งในชีวิต
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพสำหรับนางเอกสาว "แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์" ซึ่งมีโอกาสมาร่วมแสดงในซีรีส์ประวัติศาสตร์ฟอร์มยักษ์อย่างเรื่อง "ศรีอโยธยา" ที่ได้ผู้กำกับฯ อย่าง "หม่อมน้อย ม.ล.พันธ์ุเทวนพ เทวกุล" มากำกับเองกับมือ "แพนเค้ก" เลยออกมาเผยความรู้สึกถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า
ส่วนมากจะเป็นข้าราชสำนักฝ่ายในที่ตาม “นก สินจัย” ถือได้ว่าเป็นบุญมาก เป็นเกียรติมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในเรื่อง "ศรีอโยธยา" เพราะว่านอกเหนือจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ยังมีหน้าที่สำคัญที่จะต้องนำสารจากอยุธยาตอนปลายก่อนที่จะเสียกรุงกลับมาให้คนในยุคปัจจุบันได้รับทราบ เรื่องราวต่างๆ เป็นหน้าที่ของบุษบาด้วย แล้วเราก็ได้เรียนรู้เรื่องราวในประวัติศาสตร์ของบ้านเราด้วย แพนประทับใจทุกฉาก แล้วก็รู้สึกทึ่งในทุกๆ การถ่ายทำของหม่อมมาก เพราะเราเตรียมการกันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก่อนที่จะมาเริ่มการถ่ายทำจริงๆ ก็เหมือนเริ่มต้นทุกอย่างใหม่หมด ซึ่งรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เพียงแค่ว่าเราถ่ายละคร มันคือละครประวัติศาสตร์ของบ้านเรา มันเป็นเกียรติมากสำหรับนักแสดงทุกๆ คน ก็เรียนเวิร์คชอปตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว เหมือนเริ่มต้นเรียนการแสดงใหม่ทุกอย่างใหม่ ปรับวิธีการคิดการแสดงทุกอย่างใหม่ จนมาถึงการเข้าบท เราจะต้องเตรียมยังไง หม่อมน้อยก็จะช่วยดูให้ เหมือนเราต้องเอาจิตใจเราลงไปในบทด้วย ความเข้าใจจริงๆ มันก็ปรับวิธีคิดของแพนไปเยอะมาก เหมือนเริ่มต้นทุกอย่างใหม่ เหมือนไม่เคยเล่นละครมาก่อนเลย รู้สึกว่ามันคือการเรียน จริงๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตเหมือนกันตั้งแต่ทำงานมาได้เรียนแบบจริงจังอย่างถูกต้องแบบนี้ แล้วนำมาปรับใช้กับการทำงานของเรา ก็เลยคิดว่าเป็นประสบการณ์ดีมาก
นอกจากที่เรามาเตรียมตัวว่าเราถ่ายฉากนี้เป็นใคร เรายังต้องดูแบล็คกราวน์ของตัวละครกลับไปอีกว่าเราอยู่ในสมัยของใคร บ้านเมืองเราเป็นยังไง พระมหากษัตริย์องค์ไหน ก็ไปซื้อหนังสือกันมาเวิร์คชอป ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่เราจะได้รู้เรื่องราว เพราะตัวบุษบาเองต้องทราบเรื่องราวทั้งหมดเพื่อที่จะมาถ่ายทอดต่อ ก็เลยเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก การร่วมงานกับหม่อมน้อย แพนตื่นเต้นมาก แล้วก็แอบกลัวด้วยในครั้งแรก แต่พอมีโอกาสได้มาร่วมงานกับหม่อมน้อยจริงๆ แพนรู้สึกประทับใจมาก คือรู้สึกว่าท่านเป็นครูที่ให้ลูกศิษย์อย่างเต็มที่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เปิดตำรามาสอน แต่เป็นการสอนได้หมด หรือสิ่งที่เห็นจากในทีวีนำมาสอดแทรก เหมือนเอาธรรมะเข้ามาสอดแทรกเป็นการสอนเป็นสิ่งที่ควบคู่กันไปด้วย เหมือนได้เรียนอย่างจริงจัง ได้ฝึกให้ตัวเองมีสมาธิจริงๆ กับสิ่งที่เราทำไม่ได้ ทำตามความเข้าใจเองเหมือนที่ผ่านมา หม่อมน้อยก็จะบอกว่าที่นี่ทุกคนทำงานกันอย่างมืออาชีพ เราต้องตรงเวลา เราต้องทำการบ้าน ต้องซ้อม แล้วการทำเวิร์คชอปสำคัญมาก ซึ่งแพนไม่เคยนึกว่าการที่เรามาซ้อม มาเวิร์คชอป เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเราหนีมาตลอด หมายถึงก่อนหน้านี้นะ ก่อนที่จะมาเจอหม่อมน้อย (หัวเราะ) คือกลัวที่เราจะต้องแสดงหรือทำอะไรหลายๆ อย่าง เราไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่พอมาทำอย่างเวิร์คชอปก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็น และสำคัญมาก ทำให้เวลาที่เรามาเข้าฉากลดความกังวลไปได้เยอะมาก และการซ้อมจนรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังจะทำมันคือสิ่งที่ใช่ มาถูกทางแล้วจากตัวละคร มันทำให้เราสบายใจมาก
จริงๆ ก็มีแอบกังวล แอบเครียด เพราะบทที่แพนต้องเข้าแรกๆ บทจะยาวมาก เราก็จะต้องท่องด้วยความเข้าใจ และใช้เวลา เราจะเกร็งมากว่าทุกคนจะต้องรอ หม่อมก็จะบอกว่าแกถือสคริปต์และดูฉันเป็นคำๆ เลยว่าบทของหม่อมน้อยต้องตรงทุกคำ เพราะทุกคำคิดมาหมดแล้ว เราก็หน้ามืดเลย ต้องปรับ แล้วคำพูดของบุษบาก็ต้องปรับทั้งหมด แล้วฉากแรกเลยที่กังวลมาก คือ ฉากที่แค่หันหน้ามาอย่างเดียวแล้วน้ำตาไหล ที่ปล่อยทีเซอร์ให้เห็นเป็นตัวแรก ไม่มีบทพูดอะไรเลย เหมือนจะง่ายแต่จะต้องหันมา 45 องศา น้ำตาไหลหนึ่งหยดต้องถ่ายทอดออกมาว่าเรารู้สึกยังไง ยากยิ่งกว่ามีบทพูดอีก คือยากทุกฉาก แล้วหม่อมก็จะบอกเสมอว่าไม่มีบทพูดไม่ได้แปลว่าไม่ได้พูด ไม่ได้แปลว่าไม่ได้เล่น เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องเป็นตัวละครจริงๆ
มีโอกาสได้ร่วมแสดงกับพี่นก สินจัย, พี่ปีเตอร์, พี่อนันดา, ฮัท, พี่โต๊งเหน่ง แล้วก็อีกหลายๆ ท่านเองที่อยู่ในเรื่องนี้ แต่ที่ได้เจอกันบ่อยๆ ก็จะมี พี่นก สินจัย แล้วก็พี่หญิง รฐา ที่เป็นสมเด็จพระพันวัสสาน้อย แล้วก็เป็นคุณอาที่จะเจอกันบ่อย แล้วก็พี่อาร์ด้วยอีกคน ก็เกร็ง เพราะแทบจะทุกคนไม่เคยมีโอกาสร่วมงานกันมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ เรารู้สึกว่าต้องทำการบ้านมากขึ้น เห็นพี่ๆ เล่นก็รู้สึกว่าเราต้องเตรียมตัวเองมากขึ้น แตกต่างจากละครทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำ การเตรียมงานต่างๆ หรือแม้กระทั่งตัวบทละคร เรียกว่าวิธีการทำงานไม่เหมือนกันดีกว่า วันนี้แพนได้มีโอกาสมาเรียนรู้การทำงานของหม่อมน้อย ซึ่งเป็นแบบฝึกหัดที่ดีมากๆ คิดว่าเราก็เหมือนเรียนรู้มาตลอดการถ่ายทำทุกครั้ง ต้องนับถือความตั้งใจและความทุ่มเทของหม่อมน้อยและทีมงานทั้งหมดทุกฝ่ายจริงๆ ที่ทุกรายละเอียดมีความละเอียดหมด ทุกอย่างผ่านการค้นคว้า ผ่านการหาข้อมูลอย่างถูกต้อง แล้วก็มีครู มีผู้รู้ มาดูแลทุกการทำงานตลอดทุกส่วนตลอดเวลา มันทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละคือการทำงานจริงๆ ถ้าเราไม่เป็นก็ต้องทำจนเป็น รำไม่ได้ก็ต้องรำจนได้ เลยคิดว่าคนที่ได้มากที่สุดน่าจะเป็นคุณผู้ชมได้กำไร เพราะว่าในละครประวัติศาสตร์แบบนี้เราอาจจะรู้คร่าวๆ แต่มาเรื่องนี้รู้เยอะมาก มีเรื่องราวให้เราทราบตลอด