“ภัทร” แจงโดนเม้าท์จิกกล้องในละคร ยันแมนทั้งแท่ง ลั่นอยากหาแฟนสยบข่าวลือ
“ภัทร ฉัตรบริรักษ์" แจงโดนเม้าท์มองจิกในละคร "บัลลังก์ดอกไม้" ยันแมนทั้งแท่ง ลั่นอยากหาแฟนตัวจริงมาสยบข่าวลือเหมือนกัน
นักแสดงหนุ่ม “ภัทร ฉัตรบริรักษ์” ที่ล่าสุดผลงานละครที่เขาแสดงอย่าง “บัลลังก์ดอกไม้" เพิ่งจบไปหมาดๆ งานนี้หนุ่ม “ภัทร” ยังต้องรับบทร้ายอีกด้วย ซึ่งในเรื่องมีหลายคนจับตามองว่าเขาไม่แมนด้วยบทบาทในละคร เมื่อได้พูดคุยกับหนุ่ม “ภัทร” เขาเผยว่า
ด้านละคร “บัลลังก์ดอกไม้” ถือว่าดี สำหรับตนถือว่าแฮปปี้ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดว่ามันประสบความสำเร็จหรือเปล่า แต่สำหรับตนถือว่ามันคุ้มค่า กับที่ตั้งใจเล่นไว้ ละครเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ 5 แล้ว เรื่องนี้ถือว่าเล่นร้ายครั้งแรก ก็ยากเพราะมันไม่ใช่ร้ายแบบทั่วไป เหมือนจะเป็นร้ายลึกค่อยๆ ร้ายออกมา feedback ถือว่าดี คนจะเกลียดกันเยอะ จะมีคนเดินเข้ามา บอกประมาณว่าร้ายมากเลย หรือบางทีจะมีเพื่อนของเพื่อนฝากมาว่าเกลียดประมาณนี้ ส่วนน้อง “วันใหม่” เขารู้ว่าตนเล่นเป็นคนนิสัยไม่ดี ทุกวันนี้เขายังย้อนกลับมาเลยว่า ไปสั่งให้คนทำร้ายพี่ “เต้ย” เขาจะเป็นทีมพี่ “เต้ย” , พี่ “มาริโอ้” บทร้ายถือว่าชอบเพราะว่ามันยากดี ก็ต้องตั้งใจกับมันให้ดี
เรื่องกระแส คือจริงๆ ตนเล่นก็ไม่รู้ ทุกครั้งเวลาถ่ายเสร็จคงจะถามพี่เขาว่ามันดีหรือไม่ดี โอเคไหม ก็เชื่อเขา ถ้าเขาบอกว่าโอเค ตนก็สบายใจ อีกอย่างจะให้ร้ายแบบตาโต ถลนออกมา เอาจริงๆ ก็ทำไม่ได้ ทำได้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ มันออกมาในกระแส ว่าจิกตาแรงเกินไปถ้ามันทำให้คนเกลียด มันเป็นเรื่องดีหรือเปล่า แบบว่าทำให้คนไม่ชอบจริงๆ
ส่วนเรื่องที่คนภายนอกมองตนว่าหยิ่ง คือจริงๆ ด้วยความที่ไม่ค่อยสนิท ก็ไม่รู้จะคุยอะไร แต่ว่าถ้าเข้ามาคุยหรือแฟนคลับเข้ามาขอถ่ายรูปตนก็ยินดีอยู่แล้ว แฮปปี้ หรือคนมาถ่ายรูปด้วยมาคุยด้วย แต่บางทีกับคนที่ไม่รู้จัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะไปคุยกับเขา แต่ทักทายได้
ทางเฮีย “บอย” เขาไม่ได้สอนตนเลยในเรื่องนี้ เพราะว่าเขาไม่ได้เล่นร้าย บางอย่างเขาก็มาถามเตนด้วยซ้ำ ว่าเป็นอะไรยังไง ฉากนี้รู้สึกยังไงก็ดี ถือว่าได้แชร์ในสิ่งที่ตนมีแล้วเขาไม่มี แต่พี่ “บอย” เขาแนะนำบ้างว่าถ้าเกิดได้เล่นบทแบบนี้ลองไปดูตัวอย่างจากคนอื่นเพิ่มประมาณนี้ เขาไม่ได้สอนอะไรมากมายเพราะว่าตนเข้าวงการมาหลายปีแล้ว จะเปรียบเทียบจากเมื่อก่อนมาวันนี้ถือว่าดีขึ้นเยอะมากแล้ว ในเรื่องของการเข้าสังคม การทักทายสวัสดี เชื่อว่าเขามองว่าตนโอเคขึ้น
ส่วนเพื่อนๆ ก็ได้มีคอมเมนต์บ้าง บางคนก็บอกว่าตนเหมาะกับบทนี้ ตรงกับตัวเอง เขาก็จะแซวเล่นๆ แกล้งกันก็ตลกดี แต่เรื่องจริงตนก็ไม่ใช่คนแบบนั้น คือบางทีผมก็หันมามองเฉยๆโดยที่ไม่ได้คิดอะไรคนเขาจะคิดไปเองว่า ตนมองมีอะไร แต่จริงๆ ก็แค่หันไปมองดูเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร เป็นคนอยู่เฉยๆ ไม่ค่อยได้คุยกับใครเท่าไหร่ เรื่องการยิ้มมากขึ้นไหม คือจริงๆ ถ้าอย่างเวลาทำงานตนว่าก็ยิ้มมากแล้ว
ส่วนเรื่องกระแสละครที่คนจำภาพในภาพสาว สำหรับเรื่องสาวหรือไม่สาว ตนไม่ได้เล่นแบบนี้ทุกเรื่อง อีกอย่างถ้าที่กองเขาโอเคกับภาพที่ออกมาเป็นแบบนี้ ตนรู้สึกว่ามันคงโอเค ถ้าคุณจะมองว่ามันไม่ดีตนพร้อมรับฟัง ไม่ใช่ไม่สนไม่แคร์อะไร ตนเก็บเอามาพัฒนาตัวเอง เผื่อวันหน้าอาจจะได้รับบทบาทแบบนี้ใหม่ อีกอย่างจริงๆ แล้วอยากหาแฟนเป็นตัวเป็นตน มาสยบข่าวลือเหมือนกัน อยากเปิดตัวแฟนให้มันจบๆ ไป แต่มันยังไม่เจอ ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าถามว่าอยากมีแฟนไหม ก็อยากมี ถ้ามีแฟนก็ดี ก็ไม่ได้เลือกมากอะไรแต่ด้วยความที่ ตนเป็นคนที่ไม่ค่อยเปิดด้วย ประมาณว่าใช้ชีวิตคนเดียวแล้วชิน และตนเรียนด้วยทำงานด้วยอะไรหลายๆ อย่าง เวลามันหมดแล้ว เรื่องสเป็ค ชอบคนที่คุยกันแล้วเข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องพูดหลายรอบ ตอนนี้เพื่อนคนที่ตนโอเคด้วยก็มี แต่ว่ามันยังไม่ใช่ขนาดนั้น อยากเก็บความรู้สึกอย่างนี้ไว้ก่อน ถ้ามันเกินเลยไปเดี๋ยวมันจะเสียเพื่อน ส่วนเรื่องคนมองเราติดแม่ก็ไม่จริง แต่ทุกวันนี้แม่ก็ยังบ่นอยู่ว่าไม่มีใครอยู่บ้าน คือตอนนี้ก็ทำงานด้วย จะจบ ป.โท ด้วย ก็เลยไม่ค่อยมีโอกาสไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่
ส่วนผลงานเรื่องต่อไป คือเรื่อง “พ่อยุ่ง ลุงไม่ว่าง” เรื่องนี้เล่นกับ “หน่อง” ด้วย ตอนนี้ถือว่ามีเรื่องเดียว รอผู้จัดฯ คนอื่นยืนบทมาให้อยู่เหมือนกันคิดว่าก็น่าจะมีเร็วๆ นี้ ส่วนเรื่องที่จะเล่นกัน 3 คนพี่น้อง น่าจะยากแต่ใจจริงก็อยากเล่น แต่ผมคิดว่ามันน่าจะสนุกดีและน่าจะถ่ายทำกันได้ง่ายดี เพราะมันคุ้นเคย แต่ตัวเฮีย “บอย” ก็คิวยากด้วย ถ้ามีถือว่าดี
