คลิกเดียวรู้เรื่อง! เปิดเส้นทางชีวิต "บริทนีย์" อุ่นเครื่องก่อนขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ที่ไทย

คลิกเดียวรู้เรื่อง! เปิดเส้นทางชีวิต "บริทนีย์" อุ่นเครื่องก่อนขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ที่ไทย

2.5

คลิกเดียวรู้เรื่อง! เปิดเส้นทางชีวิต "บริทนีย์" อุ่นเครื่องก่อนขึ้นคอนเสิร์ตใหญ่ที่ไทย

เปิดประวัติเจ้าหญิงเพลงป๊อปของโลก “บริทนีย์ สเปียส์” ก่อนไปจอยคอนเสิร์ต “Britney Spears Live in Bangkok 2017”

 

    ทันทีที่ landing สนามบินดอนเมือง เมื่อบ่ายวันพุธ ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา Princess of Pop หรือ เจ้าหญิงเพลงป๊อปของโลก อย่าง “บริตนีย์ สเปียส์” ก็เรียกกระแสฮือฮาได้ทันที ด้วยภาพมือทาบอก กับหนูน้อยที่มาต้อนรับ การเดินทางมาประเทศไทยในครั้งนี้ แม่ “บริตนีย์” มาพร้อมกับคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในประเทศไทย “บริตนีย์ สเปียส์ ไลฟ์ อิน แบงค็อก 2017” (Britney Spears Live in Bangkok 2017) ที่กำลังจะมีขึ้น

    แต่กว่าจะได้มายืนในจุดที่ยากจะเทียบชั้นเช่นนี้ บอกเลยว่าเรื่องราวชีวิตของเธอนั้นต้องต่อสู้กับวิกฤตและผ่านกระแสดราม่ามามากมาย “ดาราเดลี่” ขอพาทุกคนไปส่องประวัติและผลงานของนักร้องสาวว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง

       “บริทนีย์” เกิดวันที่ 2 ธันวาคม ปี 1981 ในเมืองแมคคอมบ์ รัฐมิสซิสสิปปี เธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์และชื่นชอบการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก “บริตนีย์” เคยสมัครร่วมรายการ “The Mickey Mouse Club” แต่ไม่ได้รับเลือกโดยเหตุผลว่าเธอยังเด็กเกินไป หลังจากนั้นเธอได้รับโอกาสแสดงละครบรอดเวย์ และร่วมประกวดในรายการ “Star Search” และเมื่ออายุ 11 ปี เธอกลับไปคัดเลือกนักแสดงในรายการ “The Mickey Mouse Club” อีกครั้ง ที่นี่เธอได้แสดงร่วมกับ "จัสติน ทิมเบอร์เลค" และ "คริสติน่า อากีเลร่า" และอยู่ในรายการ 2 ปี ก่อนจะปิดตัวลง

       โดยในปี 1997 “บริตนีย์” ได้รับการติดต่อจากค่ายเพลงอีกครั้ง และความสามารถของเธอก็เป็นที่สนใจของผู้บริหาร Jive Records เธอจึงเริ่มต้นทำงานเพลงกับอัลบั้ม “Baby One More Time” ซึ่งเป็นการเปิดตัวที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลง ทำยอดขายได้ 5 แสนก๊อบปี้ในวันแรกที่เพลงออก และขึ้นสู่อันดับ 1 ในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ถึง 2 สัปดาห์ และมียอดขายมากถึง 26 ล้านก๊อปปี้ โดยเอ็มวีเพลง “Baby One More Time” นั้น เธอเป็นคนเผยแพร่แฟชั่นชุดนักเรียนผูกชายเสื้อโชว์สะดือ จนกลายเป็นมิวสิควิดีโอในตำนานสำหรับวัยรุ่นยุคนั้นเลย

       อัลบั้มต่อจากนั้นอย่าง Oops!...I Did It Again, Britney และ In the zone ก็เป็นผลงานที่ทำเงินและเห็นพัฒนาการของ “บริตนีย์” จากสาวน้อยชุดนักเรียน จนกลายเป็นสาวเซ็กซี่มากขึ้น เช่น ในเพลง “Toxic” ที่ชุดในเอ็มวีเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้าง และทำให้เธอได้รับรางวัลเพลงเร็วยอดเยี่ยม จากแกรมมี่

       “บริทนีย์” มีข่าวเรื่องความสัมพันธ์กับ “จัสติน ทิมเบอร์เลค” แต่ก็ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่ชัดเจนนัก และเลิกรากันไป จนกระทั่งเป็นข่าวครึกโครมขึ้นมาว่าเธอเข้าพิธีสมรสกับเพื่อนชาย "เจสัน อัลเลน อเล็กซานเดอร์" และหย่าร้างในเวลาต่อมา เป็นการแต่งงาน 55 ชั่วโมง และทั้งคู่ก็เซ็นหย่า แต่การแต่งงานที่ออกสื่อ ความหวานของเธอ คือ การแต่งงานกับแดนเซอร์หนุ่ม “เควิน เฟเดอร์ไลน์” จนมีลูกชายด้วยกัน 2 คน แต่เหมือนว่าสาว “บริตนีย์” จะลักกี้อินเกมแต่ไม่ลักกี้อินเลิฟ เพราะท้ายที่สุดเธอก็หย่าร้างกับสามี และเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ เพราะว่าทำให้เธอตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า จนต้องพึ่งสารเสพติด และมีข่าวช็อคๆ ออกมาต่อเนื่อง เช่น โกนศีรษะจนโล้น

       แต่หลังจากเข้ารับการบำบัดและปรับตัวได้ เธอก็กลับมาทำงานเพลงอีกครั้ง อัลบั้ม “Black out” ของเธอไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ต่อจากนั้นอัลบั้มที่ 6 อย่าง “Circus” ก็กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง และอัลบั้มต่อมา “Femme Fatale” ก็มีงานเพลงที่ขึ้นชาร์ตอีกครั้ง อย่าง “Hold it against me” และ “Till the world end” และมีอัลบั้มต่อเนื่องมาอีก “Britney Jean” และอัลบั้มล่าสุด “Glory” แม้ “บริทนีย์” จะอยู่ในวัย 35 ปีแล้ว เพลงของเธอก็ยังเป็นที่ติดตาม อย่างเพลงซิงเกิ้ลแรก “Make Me…” นิตยสารต่างประเทศถึงกับบอกว่า เป็นการกลับมาที่มหัศจรรย์เลยทีเดียว

      “บริทนีย์ สเปียส์” ยังคงทำหน้าที่เจ้าหญิงเพลงป๊อปได้อย่างดี เพราะในปีนี้เธอออกทัวร์คอนเสิร์ตเยี่ยมแฟนคลับในหลายๆ ประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และก็ในไทย และกระแสตอบรับของคอนเสิร์ตแต่ละรอบก็ไม่ทำให้แฟนคลับผิดหวังแม้แต่น้อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments