“จุ๋ย” ชวนดู “เมียหลวง” ตอนแรก ลั่นหากเจอแบบในละครจะไม่ขอทน
“จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” ชวนแฟนคลับดู “เมียหลวง” รับกดดันแสดงละครรีเมค ลั่นหากเจอสถานะการณ์แบบในละครขอเดินออกมาทันที เพราะตนไม่จำเป็นต้องทน
อีกหนึ่งนางเอกสาวมากความสามารถ “จุ๋ย วรัทยา” ที่ในวันนี้ (27 เมษายน) ละครที่เธอแสดงอย่าง “เมียหลวง” กำลังจะออนแอร์ให้แฟนๆ ได้ติดตามชมอีกครั้ง โดยละครเรื่องนี้เป็นละครรีเมค งานนี้ไม่รู้สาว “จุ๋ย” จะคาดหวังกับผลงานละครเรื่องนี้ยังไงบ้าง เมื่อได้คุยกับเธอได้เผยให้ฟัง พร้อมทั้งเล่าความยากของการถ่ายทำให้ได้ฟังว่า
สำหรับวันนี้ละคร “เมียหลวง” ออนแอร์ตอนแรก ต้องบอกว่าเป็นละครที่ค่อนข้างตื่นเต้น และกดดันทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างเมื่อวานไปถ่ายรายการกับพี่ “คริส” ก็ยังคุยกันว่าตื่นเต้นเหมือนกันละครจะออนแอร์แล้ว ต้องบอกว่าละคร “เมียหลวง” เป็นละครที่รีเมคมาหลายครั้งแล้ว แบบมากกว่าทุกเรื่องที่ตนเคยเล่น อย่างมากสุดก็ “สามีตีตรา” ก็รีเมคสามครั้ง แต่ “เมียหลวง” นี่หลายรอบมากๆ ตั้งแต่อดีต ทุกช่องเอาไปทำ ซึ่งมันก็เป็นความกดดันอยู่แล้ว ตั้งแต่ละครยังไม่ออนเลย คนก็จะแบบมีความคาดหวัง คนก็ต้องตื่นเต้นกับเวอร์ชั่นที่กำลังจะฉาย แต่สำหรับตน ก็ไม่ได้คาดหวัง เพราะนิยายมันอมตะจริงๆ เค้าโครงเรื่องมันเป็นแบบนี้จริงๆ แต่ว่าลักษณะของตัวละครมันเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ซึ่งยุคสมัยนี้มันเป็นยุคสมัยของดีจิตัล ยุคโซเชียล คนก็จะเปลี่ยนไป การรับชมรับฟังมันก็เปลี่ยนไปหมด ก็ต้องทำใจให้มันโล่งๆ สิ่งที่เราทำตอนนั้นมันก็ดีที่สุดแล้ว แล้วก็ในลักษณะแง่มุมของตัวละครที่เป็นคาแรคเตอร์มัน ก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัย มันก็จะไม่ใช่ผญที่ไม่คิดในลักษณะของรุ่นแม่แล้ว เป็นผญ ที่ต้องทำงานในยุคปัจจุบัน ต้องรับมือกับสื่อโซเชียลดิจิตัลให้ได้ ถือว่ามันเป็นละครที่ส่งเสริมครอบครัวมันไม่ใช่ละครน้ำเน่า แต่กลายเป็นละครน้ำดี เพราะว่าในเรื่องเนี่ยมันจะสะท้อนให้เห็นว่าแบบสำหรับครอบครัวในปัจจุบันที่มีปัญหาความรัก หรือปัญหาครอบครัวแบบนี้เนี่ย ตนจะรับมือกับสื่อหรือโซเชียลกับข่าวภายนอกที่มากระทบตัวคนในครอบครัว คืออย่างตัว “วิกันดา” เขาจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาครอบคัวเขาไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องอดทน กล้ำกลืน ขมขืม อะไรสักอย่างแต่ว่าลูกต้องโอเค
ส่วนถ้าตนเจอแบบบทในเรื่องคือง่ายๆ คือเดินออกตั้งแต่ครั้งแรกที่จับได้ คือเรื่องนี้มันก็ยังมีความเป็นผู้หญิง ที่อดทน ต้องการรักษาหน้าตัวเอง แคร์สังคมนิดนึง และสังคมรอบข้างที่ต้องแคร์ คือถามว่าตัวเอง ตนก็มีสังคมที่ต้องแคร์ แต่ถ้าถามว่าถ้าเป็นตัวจริงของเราเองเนี่ย ถ้าอะไรที่มันทำให้ตนไม่มีความสุข ก็พร้อมที่จะเดินออกมาทันที เพราะว่าจะเป็นคนที่ไม่ทนกับอะไรเรื่องพวกนี้ ตนไม่จำเป็นต้องทน ใช้ชีวิตของตัวเองได้
ด้านการถ่ายทำจริงๆ แล้วก็คือการดูงานของ “วิกันดา” และ “อนิรุทธิ์” ซึ่งแต่ก่อนก็เปนประเทศอื่นๆ แต่ปีนี้ก็ได้รับเกียรติจากเกาหลี ซึ่งเขาก็แบบว่าช่วยประสานงานไปถ่ายทำที่ปูซาน ก็สนุกดี เพราะว่าอย่างเกาหลี อาหารก็คุ้นเคยอยู่แล้ว ใช้ชีวิตไม่ลำบาก ทางทีมงานของเกาหลีก็ดูแลดี ได้อีกบรรยากาศนึง อีกเมืองนึง แต่เหมือนไปถ่ายทำมันก็ค่อนข้างมีอุปสรรคนิดนึง เหมือนทีมงานไทยเอากล้องไปเยอะไม่ได้ เอาไปได้แค่สองตัว แล้วก็ต้องไปตามที่ต่างๆ ตามโปรแกรม ก็เหมือนก็ต้องเก็บให้ทันในวันนี้ เพื่อให้เสร็จ ก็คือให้คิวไปแล้วเป็นสิบวัน จริงๆ ถ้าถ่ายสบายๆ มันคงไม่พอ ก็เลยต้องเร่งถ่ายและก็มีติดปัญหาเรื่องฝนด้วย ถ่ายๆ อยู่ฝนก็ตก ก็ถ่ายไม่เสร็จก็ต้องรีบหาวิธีแก้ปัญหากัน แล้วตนก็ต้องมีฉากร้องไห้ที่เกาหลีด้วย แล้วคืออากาศที่นั้นมันจะหนาว แล้วลมมันแรง มันก็จะเป็นอุปสรรคอยู่นิดนึงในการที่ร้องไห้ มันจะแสบตาบ้าง แต่ทุกอย่างก็ต้องทำให้ทันตามเวลา ก็กดดัน แล้วต้องเดินขึ้นเขาลงเขา ทีมงานเหนื่อยมาก สงสารเลย กล้องมันหนัก แล้วต้องแบกอุปกรณ์หนักขึ้นเขาเล่นเอาหอบกันเลยทีเดียว
ในเรื่องของภาพคือแปลก ตนได้ดูในเอ็มวี คือที่เมืองไทย คือใช้กล้องเหมือนๆ กัน แต่พอไปอยู่ที่เกาหลี เหมือนแสงมันซอฟเอง ตนก็งงว่าทำไมแดดถึงไม่เหมือนกัน ก็เลยเข้าใจแล้วว่าทำไมซีรีส์เกาหลี พระเอกนางเอกหน้าถึงขาว วิ้งกันจัง เพราะอาจะเป็นสถาพอากาศ ความชื่น ความอะไร ที่มันแตกต่างกันจาก ที่เมืองไทยก็จะเป็นสีหนึ่ง ที่เกาหลีก็เป็นอีกสีนึง
ส่วนฉากไหนที่ต้องติดตาม ตนคิดว่าว่าหินทุกฉากเลย แต่ว่าฉากที่ทะเลาะกับพี่ “สมาร์ท” จะยากนิดนึง เพราะว่าในความเป็นจริงยังไม่เคยแต่งงาน ยังไม่เคยทะเลาะอะไรที่แบบว่าลึกซึ้งกับความรัก มันเป็นความรักที่แบบเกินวัยไปแล้ว ความรักที่แบบทำเพื่อลูก แบบแม่คน ภรรยาที่รับความกดดันแบบนี้จริงๆ
สุดท้ายก็ขอฝากแฟนๆ กับละคร “เมียหลวง” ก็ถ่ายทำกันมาเป็นเวลานานมาก แล้วก็เป็นอีกเรื่องที่เต็มที่ เครียดเหมือนกัน เพราะต้องใช้อารมณ์ออกทางหน้าตา ท่าทางมากๆ คำพูดกับการแสดงชัดๆ ฝากเป็นกำลังใจให้กับทีมเมียหลวงด้วยแล้วกัน รับรองว่าเวอร์ชั่นนี้ก็แซ่บไม่แพ้เวอร์ชั่นอื่นเหมือนกัน ตามยุคตามสมัย ดูแล้วก็ส่งเสริมเริ่มราวของครอบครัว ให้ได้แง่คิด ก็ขอฝากทีมเมียหลวงด้วย
