“จูน” อัพเดทอาการ “น้องออกัส” พร้อมเผยพัฒนาการลูกน้อยทั้ง 4 

“จูน” อัพเดทอาการ “น้องออกัส” พร้อมเผยพัฒนาการลูกน้อยทั้ง 4 

        “จูน กษมา ศิลาชัย”  อัพเดทอาการหลังน้อง “ออกัส ศิศิรา ศิลาชัย” วิ่งชนเสาในสวนน้ำหัวบวมโน พร้อมเผยถึงพัฒนาการลูกน้อยทั้ง 4 คน 

        อีกหนึ่งครอบครัวสุดหรรษาอย่าง “ศิลาชัย” ที่มีคุณพ่อ “เปิ้ล นาคร” กับ “จูน กษมา” และลูกน้อย 4 ออ ซึ่งล่าสุดลูกสาวคนโตของครอบครัวอย่างน้อง “ออกัส ศิศิรา” เกิดอุบัติเหตุวิ่งชนของเล่นในสวนน้ำ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดอาการบวมโนบริเวณหน้าผากของน้อง “ออกัส” ล่าสุดจึงได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณแม่ “จูน” โดยเธอได้เผยถึงเหตุการณ์ในวันนั้น พร้อมทั้งอัพเดทอาการน้องให้ฟังว่า

        สำหรับเหตุการณ์วันนั้นน้องเขาไปเล่นสวนน้ำเล่นเป็นประจำ วันนั้นวิ่งผ่านเครื่องเล่นอันนึงแล้วมันมีเสาอันนึงตั้งอยู่บนขอบและมันมีที่จับยื่นยาวออกมาน้องคงมองไม่ทัน ก็ไปชนกับเสาอันนั้นที่มีที่จับมือยื่นออกมา ก็ชนที่ขอบ ก็บวมเกือบแตกที่หัวที่หางคิ้วนอก หลังจากโดนน้องก็ร้องเลย ตนก็นั้งอยู่ริมสระอยู่แล้วนั่งเฝ้าอยู่แต่ตอนชนมันวิ่งเร็วมาก ชนไปเลยแล้วเขาก็มายืนกุมมือที่หัวอีกตรงที่นึง แล้วเขาก็มายืนร้องไห้ พี่ผู้ช่วยที่เป็นผู้ชาย เขาคอยดูเขาก็รีบวิ่งเข้าไปดูว่าน้องเป็นอะไรพอเอามือออก พอน้องเอามือเปิดออกมาก็บวมใหญ่เป็นลูกมะนาว คือมันขึ้นโนเร็วมากแค่ 2 นาทีเอง ตนก็เห็นแล้วว่าน้องยืนร้องไห้แต่ยังไม่เห็นแผล เห็นเขาแค่ยืนร้องไห้กับเอามือกุมไว้ที่หางคิ้วเขาที่โดนชน แล้วก็วิ่งมาให้ตนดูก็ตกใจใหญ่เลยเสียงแม่กรี๊ดด้วย ลูกก็ร้องไห้ด้วย ดูยิ่งเป็นเรื่องเป็นราวมายเลยทีนี้ ก็พาน้องรีบไปห้องพยาบาลประคบเย็น ก็อยู่กันเกือบชั่วโมงให้ลดบวมลง ก็อดเล่นน้ำไปก็ต้องกลับมาบ้าน

       ส่วนอาการล่าสุดก็ยังบวมอยู่เพราะหลังจากนั้น ตนก็โพสต์ไอจีก็มีพี่ๆ มาบอกวิธีกันเต็มเลยแล้วก็เห็นวิธีคนโพสต์มาให้เยอะมาก พี่ๆ เช่น ดินสอพองผสมกับน้ำมะนาวมาโปะทิ้งไว้กลางคืน ตอนเช้ามันจะยุบ และยุบจริงๆ ด้วย แต่ยังมีร่องรอยของการบวมอีกนิดหน่อย แล้วก็ร่องรอยแผลถลอกอีกนิดหน่อย แต่ดีขึ้นเยอะวันแรกก็หยุดเรียนไป เพราะมันยังโนอยู่ เพราะกลัวเขาไปกระแทกอีกที่โรงเรียน แต่ว่าวันนี้ก็ไปโรงเรียนเรียบร้อยแล้วก็ปกติ

 หลังเจอเหตุการณ์แบบนี้คือจะบอกเขาตลอดนะว่าเป็นผู้หญิงต้องอดทน เป็นพี่ผู้หญิงคนโตต้องอดทน เป็นผู้หญิงต้องเข้มแข็ง คือเขาโต 7 ขวบแล้ว ถามว่าร้องไห้ไมเขาก็ร้องแต่ไม่ได้ร้องเป็นเรื่องเป็นราวไรขนาดนั้น บอกเขาต้องเงียบก่อนแล้วตนก็ถามเขาเป็นอะไร และก็จะไม่ตื่นตูมไปตามลูกมากเดี๋ยวเขายิ่งตกใจ ต้องขีดเหตุเป็นเรื่องธรรมดา ถ้ายิ่งไปประคบประงมยิ่งอะไรมาก ยิ่งร้องหนักไรงี้ ให้ทำเป็นสบายๆ วันนั้นที่โดนก็รอดูอาการ 24 ชั่วโมงน้องเขาจะมึนรึเปล่า เพราะเขาให้ดูอาการไงมันใกล้สมองใกล้กะโหลกอะไรงี้ ว่าน้องจะซึมน้องอาเจียนรึเปล่า ก็คอยสังเกตเพราะน้องโดนเสร็จเราก็ตีรถกลับกรุงเทพเลย ไม่ได้อยู่ต่อเลย ก็ตอนแรกก็ดูอาการตอนนั่งรถ ดูแล้วเขาไม่ได้ร้ายแรงอะไรก็เลยกลับบ้านเลยไม่ได้แวะโรงบาล

 ถามว่ามันกังวลไหม ในส่วงของอาการลูก แต่ไม่ได้กังวลเป็นเรื่องเป็นราว ถ้าลูกเจ็บตัวเราก็เจ็บ ก็เป็นห่วงอยู่แล้ว แต่บ้าน “จูน” ค่อนข้างที่จะเจ็บบ่อยไง มันเลยชิน มีตั้งรับว่าก็ต้องใจเย็นๆ ใม่ต้องไปตื่นตูม เมื่อก่อน “ออกัส” ตัดเล็บยังต้องไปตัดที่โรงบาลเพราะตัดไม่เป็น เพราะมีประสบการณ์หลายๆ ตนก็คอยปรึกษาหมออยู่แล้ว

 ส่วน “ออก้า” เขาดีใจว่าเขารู้ว่าไปกับพ่อ ตอนเช้าเขาก็จะรีบไปโรงเรียนรีบกลับมางี้ ชุด “ออก้า” ไปหรือยัง รองเท้า “ออก้า” เอาไปหรือยัง เขาจะมีชุดเจ็ทสกี พรุ่งนี้เขาจะไปซ้อมเขาจะอัดรายการอยู่ มีรายการไปถ่ายเขา ก็ชอบ เพราะเขาเห็นตั้งแต่เดินไม่ได้เพราะว่าพี่ “เปิ้ล” เขาแข่งเจ็ทสกีมาตลอด พอช่วงพี่ “เปิ้ล” แข่งเมื่อไหร่ ก็จะพาลูกเอาไปเที่ยวด้วย ไปเชียร์พ่อเขาด้วย เขาจะเห็นมาตลอดพอเขาได้มีโอกาสที่ได้นั้งแล้ว เขายิ่งชอบเลย พอได้ขับเองเท่านั้นแหละ ซื้อเจ็ทสกีให้เป็นของตัวเอง ขับทุกอาทิตย์เลย เดี๋ยวนี้เห็นเรือลากเรือออกเอง ลากเรือขึ้นฝั่งเอง ใส่ถุงมือเอง ใส่ชูชีพเองอะไรเอง คือเขามองพ่อเขาตลอดว่าเขาจะทำอะไรเอง อย่างพี่ “เปิ้ล” ก็สอนให้ทำเองด้วย กีฬาผู้ชายก็ได้เห็นเขาไปเล่นกับพ่อ ได้มีกิจกรรมร่วมกัน กิจกรรมครอบครัวแฮปปี้แค่นี้ก็โอเคแล้ว

 ด้านพัฒนาการของน้อง ก็มีเมื่อคราวที่แล้ว พี่ “เปิ้ล” เขาขี่เจ็ทสกีเล่น แล้วก็นึกสนุกเปลี่ยนไปยืนขี่ด้านเดียว ใช่ขาเดียว อีกขาลาน้ำไว้ “ออก้า” เขาเหลือบมาเห็น สักพักเขาก็ขี่ๆ พอเขายืนขี่เสร็จเขาก็บอกปาป๋า “ออก้า” ยืนขี่ได้ไหม ก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะไปยืนขี่ด้านเดียว ออกไปขี่ข้างเดียว แล้วก็เอาตัวออกไปนอกเรือ เราก็นึกว่าเขาจะยืนขี่ธรรมดา เขาก็ยืนขี่ได้ ขับมาเร็วเอาตัวออกไปนอกเรือด้านนึงแล้วยืนขี่ข้างเดียว แล้วขาก็ไปลากับน้ำ ตนก็ตกใจ เพราะมันอันตราย ก็บอกว่าไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ได้แค่นั้นแหละ เขาเห็นตนทำก็ทำหมด

 ส่วน “กู๊ด” จะขวบครึ่ง “เกรท” ก็พัฒนาปกติ ส่วนเรื่องตาน้องที่น้องผ่าตัดมาตอนอายุครบ 1 ขวบ ก็ไปตามนัดตามปกติ วันศุกร์เดี๋ยวหมอนัดก็ไป คือน้องก็ยังต้องเช็กอาการตลอดว่าเป็นยังไงบ้าง ยังเห็นองศาขนาดไหน เช็กใกล้ไกลของวัตถุที่น้องเห็นเพราะว่าเด็กต้องตรวจเรื่อยๆ เพราะพัฒนาการเด็กมันมีตลอดเวลา ก็ยังไม่มีอะไรเพิ่ม ส่วน “ออเกรท” เพิ่งครบ 4 เดือนไปเมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมา ก็ปกติก็อ้วกใหญ่ คิดว่าน่าจะใหญ่กว่า “ออกู๊ด” อีกไม่นานน่าจะใหญ่กว่า “ออกู๊ด” แล้ว กินนมเยอะมาก ก็เริ่มเรียนกันปกติ “ออกู๊ด” ก็เรียนพิเศษตามทั่วไปที่เด็กเขาพัฒนาการกล้ามเนื้ออะไรงี้ ก็ไปเรียนเพิ่มดีกว่า เขาอยู่บ้านเฉยๆ เขาไปเรียน เขาก็จะได้ทักษะ ก็จะเห็นว่าคุณครูสอนอะไรมาก็จะพัฒนาให้ลูกเล่นที่บ้านได้ เหมือนไปเล่นที่โรงเรียน ไม่ใช่อยู่บ้านเฉยๆ คือที่โรงเรียนเขายังสอนอะไรยังไงช่วยฝึกสมองด้านไหน

 สุดท้ายอยากจะขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ที่ยังอยู่ด้วยกันตลอด ยังคอยติดตามเอ็นดู 4 ออมาตลอด แล้วก็ยังรักแล้วก็เป็นพระคุณต่อครอบครัวมาก ก็เขาก็เหมือนลูกเขา เขาก็ตั้งชื่อให้กับทุกคนที่อยู่ในท้อง พอเขาออก พอน้องออกมาทุกคนก็จะคอย ติดตามว่าวันนี้น้องกินอะไร น้องทำอะไร วันนี้น้องไปไหน ก็ยังคุยกับทางพี่ๆ เขาตลอดงี้ พี่เขาก็เอ็นดูจริงๆ เขาก็ยังแบบมีส่งอาหารมาให้กิน ส่งของมาให้ใช้ ก็ต้องขอบคุณจริงๆ ตนเข้าใจเลยว่ามาอยู่ตรงนี้แล้ว พี่ๆ รักน้องขนาดนี้แล้ว ตนรู้สึกยังไง รู้สึกว่าปลื้ม ที่คนมารักบ้านเราเยอะขนาดนี้ แล้วก็ฝากติดตามครอบครัวตนที่ YOUTUBE “เปิ้ล นาคร เชนเนล” ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 6 โมงเย็น