“โค้ชเรย่า” เผยวิธีรักษาจิตเน้นฝึกสมาธิ ไม่รักษาแบบจิตแพทย์
“โค้ชเรย่า รัชยา นิลกรรณ์" เผยงานมีการบินไป-กลับ ไทย-ออสเตรเลีย แจงด้านการรักษา จะไม่รักษาแบบจิตแพทย์ เน้นสมาธิและการสื่อสารกับตนเอง
อีกหนึ่งนักบำบัดจิตใจอย่าง “โค้ชเรย่า รัชยา” ที่ล่าสุดเธอได้เข้ามาสวัสดีปีใหม่กับทาง “ดาราเดลี่” ซึ่งเธอเองก็ได้เผยถึงวิธีการในการรักษาทางจิต พร้อมทั้งยังได้เล่าเคล็ดลับให้เราได้ฟังว่า
ในตอนนี้มีการเปิดสอนสมาธิฟรี และเปิดเพจ คุยปัญหาชีวิตกับ “โค้ชเรญ่า” สนับให้คนเข้ามาปรึกษาปัญหาและให้กำลังใจกัน นอกนั้นคือ CSR ช่วยเหลือสังคมที่ได้บริจาคตามมูลนิธิ เผยอีกว่า เรื่องหนึ่งที่ภูมิใจคือ บริจาครถพยาบาลให้หน่วยกู้ภัย โดยตอนนี้บริจาคเป็นคันที่สองแล้ว คิดว่า ถ้ามีความสามารถก็อยากให้ช่วยกัน มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตครบทุกอย่าง เชื่อว่า การทำบุญแบบนี้ก็ไม่ต่างจากการไถ่ชีวิตโคกระบือ แต่การทำแบบนี้เหมือนเป็นการช่วยชีวิตคน ส่วนตัวมองว่าดี
ด้านงานตอนนี้มาเรื่อยๆ ก็จะมีการเลือก ต้องมีการบินระหว่างไทยกับออสเตรเลีย ดูจากเคสที่สำคัญและมีปัญหามากที่สุด ถ้าคนทั่วไปจะเป็นการสอนพัฒนาอารมณ์ ยอมรับตอนนี้คนเป็นโรคซึมเศร้าค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะคนที่ชอบพูดฆ่าตัวตายบ่อยๆ มีสิทธิ์ทำจริง ตนคิดว่า ควรเข้าไปช่วยไม่อยากให้มีการต่อว่ากัน หากเป็นมากควรพบจิตแพทย์ก่อน เชื่อว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าโดยมากจะขาดเป้าหมาย โดยตนจะช่วยในการดึงให้คิดบวกและสร้างเป้าหมายนั้น
ด้านการรักษา ตนเองจะไม่รักษาเหมือนจิตแพทย์ ตนเองจะดูแลด้านจิตใต้สำนึก สะกดจิตบำบัด และฝึกสมองให้คิดบวก ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับมายากล โดยตนจะสร้างความผ่อนคลายให้กับสมอง และย้อนความคิดกลับในวัยเด็ก และจะรักษาโดยการปรับความคิดนั้น เชื่อว่าการพฤติกรรมที่เกิดในตอนโตมีผลมาจากวัยเด็กก่อน 6 ขวบ หากแก้ได้ก็สามารถเปลี่ยนตนเองได้ มั่นใจว่าแก้ไขได้ 100% จากที่เคยรักษามา
ด้านการสอนการแสดง จะเน้นสมาธิและการสื่อสารกับตัวเอง ความศรัทธาในละครตัวนั้น ส่วนตัวคิดว่า ที่อื่นจะสอนให้จำบท รู้มุมกล้อง แต่ตนเองจะสอนให้นิ่ง มีสมาธิ เชื่อในบท และเมื่อจบบทนั้นต้องสามารถตัดอารมณ์ได้ ด้านลูกศิษย์จะเป็นกลุ่ม และเดี่ยว ด้านกลุ่มจะเป็นของเอเอฟ ที่ผ่านมา ส่วนโค้ชเดี่ยว ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครมาบ้างเนื่องจากเป็นผลที่เกี่ยวกับการรักษา ซึ่งจะสอนในการคิดต่างๆ ยอมรับว่ามีหลายแบบให้แก้ กรณีที่พูดได้คือ น้องเมจิ เผยว่าเป็นคนน่ารักมาก ตนไม่เชื่อเลยว่าจะเล่นบทร้าย มีความมุ่งมั่นดี แต่ที่มาเรียนนั้น ต้องการทำความมั่นใจให้เพิ่มขึ้น ค้นหาเป้าหมายและยอมรับความเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าทุกอย่างรวมกันหมดทั้งหมด แต่ละคนไม่เหมือนใครแตกต่าง ส่วนตัวเมื่อมองใคร จะมองย้อนหลังไปหมด เผยต่อว่า มีดูถึงอดีตชาติ มีบ้างดูวันเดือนปี แนะนำให้ตอนเช้า ยิ้มกับกระจกและชมตัวเอง เชื่อว่าเป็นการสร้างกำลังใจในชีวิตมากขึ้น แต่สุดท้ายต้องยอมรับว่าอะไรคือพฤติกรรมที่ส่งผลต่อชีวิต โดยตนจะทำการล้างสิ่งเหล่านั้นและสร้างความคิดบวก ยอมรับสำคัญที่สุดคือสมาธิและสติ
