เรื่องย่อละคร “นาคี”

เรื่องย่อละคร “นาคี”

1

เรื่องย่อละคร “นาคี”

    โขงเจียม อุบลราชธานี พ.ศ. 2480......... นายเคน (ชาติชาย งามสรรพ์) สามีของคำปอง (อริศรา วงษ์ชาลี) จับได้งูลักษณะประหลาดเป็นสีขาวตลอดตัวขนาดใหญ่กว่าแขน ยาวประมาณวาเศษ บนหัวมีหงอนเหมือนหงอนพญานาค ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นงูเจ้าแม่ที่เรียกกันว่า “นาคี” เขานำไปขายให้กับฝรั่งนักค้างู จอห์น วินสัน ด้วยราคาสูงลิ่ว คำปองซึ่งท้องแปดเดือนมีความเชื่อว่างูเจ้าแม่นี้ หากไปลบหลู่ ดูหมิ่น จะต้องประสบกับความพินาศฉิบหาย นางพยายามห้ามปรามสามีแต่สายไปเสียแล้ว กลุ่มของสามีนางประกอบด้วยผู้ช่วยชาวไทยอีกสองคนคือ นายกอ (หยอง ลูกหยี) และ นายบุญส่ง (ศักราช ฤกษ์ธำรง) ไปลบหลู่ จนปรากฏอาเพศบนท้องฟ้าเกิดสุริยคราส พายุอื้ออึง ฟ้ามืดครึ้ม เกิดลมพายุรุนแรงจนหมู่บ้านถล่ม ทุกคนตายเหลือแต่นายกอที่หนีรอดไปได้ ด้านคำปองนั้นเกิดเจ็บท้องคลอดกะทันหันเด็กทารกหญิงที่คลอดออกมาสิ้นชีวิต แต่ก่อนที่คำปองจะหมดสติไปนางบังเกิดเห็นภาพงูใหญ่เลื้อยแทรกกลืนหายเข้าตัวเด็ก และลูกของนางก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง คำปองตั้งชื่อบุตรสาวว่าคำแก้ว (ณฐพร เตมีรักษ์) ย้ายจากโขงเจียมไปอยู่ดอนไม้ป่า เด็กหญิงคำแก้วในวัยเรียนชั้นประถมศึกษามีลักษณะต่างจากเด็กทั่วไป มักปรากฏอสรพิษอยู่ใกล้เด็กหญิงเสมอแต่ไม่เคยทำร้าย คำแก้วมักหายตัวไปบริเวณปราสาทหินร้างท้ายหมู่บ้าน เด็กหญิงยังบอกอีกว่าสามารถพูดคุยกับงูได้และพวกมันเชื่อฟังเธอ คำปองเชื่อว่าเด็กหญิงคิดเอาเองตามประสาเด็ก

     20 ปีผ่านไป (พ.ศ. 2500)  คณะอาจารย์และนักศึกษาโดยการนำของอาจารย์ทัศนัย (ธนากร โปษยานนท์) ได้ลงพื้นที่ขุดค้นโบราณวัตถุ ในจำนวนนี้มีทศพล (ภูภูมิ พงศ์ภาณุ) นักศึกษาปีสุดท้ายของคณะโบราณคดีรวมอยู่ด้วย เขาหลงใหลในวัตถุโบราณเป็นอย่างมาก ทศพลขุดพบรูปปั้นประหลาดเป็นหินสลักสีขาวอมชมพูรูปหญิงสาวเปลือยท่านอนบิดตัว ช่วงล่างตั้งแต่สะโพกลงไปเป็นหางงูส่วนบนของหน้าผากที่จรดกับศีรษะมีหงอน ซึ่งอาจารย์ทัศนัยอธิบายว่านั่นคือสัญลักษณ์ของนาคีหรือพญานาค ทศพลหลงใหลในความงามของรูปปั้นจนเก็บไปเพ้อถึงทำให้พิมพ์พร (ฉัตรฑริกา สิทธิพรม) ที่แอบชอบเขาอยู่ไม่

    ทศพลและเพื่อนๆ ไม่ได้การต้อนรับจากกำนันแย้ม (มนตรี เจนอักษร) เพราะกำนันแย้ม ไม่ต้องการให้คนต่างถิ่นเข้ามายุ่มย่ามในหมู่บ้าน รวมถึงการขุดค้นที่เทวาลัย  จึงขับไล่ทุกคนไม่ให้นอนค้างที่หมู่บ้าน สุดท้ายทัศนัยจึงพาเด็กๆ ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของคำปอง และที่นั่นเอง ทศพลก็ได้พบกับคำแก้ว และเริ่มชอบคำแก้วในที่สุด

    หมออ่วม (ประสาท ทองอร่าม) ทำนายกับกำนันแย้มว่าอีกเจ็ดวันจะเกิดสุริยคราส ทำความวิตกให้กับเขามากเนื่องจากทุกครั้งที่เกิดปรากฏการณ์นี้จะต้องมีคนถูกฝูงงูกัดกินจนตายทุกครั้ง หมออ่วมบอกว่านี่เป็นอิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่นาคี เขาทำนายพิมพ์พรว่ากำลังมีเคราะห์หนักจนอาจถึงสิ้นชีวิตภายในเจ็ดวัน

    หมออ่วมลอบนำว่านพญาลิ้นงูที่ได้จากสัปเหร่อคงไปฝังไว้ที่ใต้ถุนเรือนคำปอง เพื่อทดสอบว่าคำแก้วคือร่างแปลงของนาคี จนคำแก้วร้อนรนจนอยู่บนเรือนไม่ได้ต้องเสาะหาขุดว่านนั้นทำลายเสีย หมออ่วมเริ่มแน่ใจมากขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่นหนาพอ

    ส่วนทศพล วันชนะ และประกิต ต้องค้างที่เทวาลัย เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้ทศพลค้นพบถ้ำใต้เทวาลัย  และได้พบกับร่างทิพย์ของเจ้าแม่นาคี ที่มีหน้าตาเหมือนกับคำแก้วอย่างไม่มีผิดเพื้ยน  

    กำนันแย้มร่วมมือกับหมออ่วมทำพิธีกำจัดเจ้าแม่นาคี ใช้แหวนพิรอดพันกับสายสิญจน์ ผูกไว้ และเผาหุ่นเจ้าแม่นาคี  คำแก้ว ซึ่งกำลังขายดอกไม้ เริ่มร้อน ทุรุนทุราย ทนไม่ไหว  ทศพลเห็นหมออ่วมทำพิธี รีบวิ่งไปหาคำแก้ว ถึงแม้จะถูกลูกน้องกำนันแย้มทำร้ายก็ตาม ร่างทิพย์เจ้าแม่นาคีพุ่งวูบออกมาจากร่างคำแก้ว ร่ายคาถาเรียกฝนมาสู้กับพิธีของหมออ่วม พายุฝนตกอย่างแรง ฟ้าผ่าจนสายสิญจน์ขาด  ไฟที่หุ่นฟางดับลง พิธีหยุดลงกะทันหัน ทุกคนวิ่งหลบฝน  คำแก้วสลบอยู่ในอ้อมกอดทศพล

    หมออ่วม  กำนันแย้ม ลำเจียก มาที่กระท่อมทศพลใช้แหวนพิรอดส่องทาง ไม่ให้เจ้าแม่นาคีบังตา จนพบกับเทวรูปเจ้าแม่นาคี กำนันแย้มและพวกจึงไปจับตัวทศพลและเพื่อนๆ เอาไว้  คำแก้วรีบตามไปดู ถูกชาวบ้านเอาหินปาใส่ หาว่าคำแก้วเป็นงู  ทศพลเข้าช่วย บอกกับกำนันแย้มและทุกคน ว่าจะไปพิสูจน์เรื่องเจ้าแม่นาคีที่เทวาลัย เพราะไม่ว่าใครจะไปที่นั่น ก็ไม่รอดกลับมา แต่หากเขารอดกลับมาได้  ต้องยอมปล่อยตัวทุกคน และไม่ต่อว่าคำแก้วอีก คำแก้วเป็นห่วงทศพล อยากตามไปช่วย

    ทศพลเริ่มหนาวเพราะอากาศในถ้ำ เขาเห็นเงาทัศนัย เดินตามไป ส่วนงูเขียว พาคำแก้ว เข้ามาที่ถ้ำจนได้  เจ้ามานาคีเข้าสิงห์ร่างคำแก้ว  แล้วก็มาพบกับทศพล  ทศพลดีใจมากที่ได้เจอคำแก้ว โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าแม่นาคี  เจ้าแม่พาทศพล มายังสระน้ำสีมรกต น้ำใส เป็นประกายระยิบระยับ  สระแห่งนี้เป็นเส้นทางเชื่อมไปได้หลายแห่ง เป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับวังบาดาลเมืองของพวกพญานาค เจ้าแม่เล่าเรื่องอดีตให้ทศพลฟัง และบอกว่าตนเองรออยู่ จนไชยสิงห์ มาเกิดเป็นทศพล ส่วนคำแก้วก็คือเจ้าแม่นาคีนั่นเอง  รุ่งเช้า ทศพลหลับอยู่กับคำแก้ว คำแก้วตื่นมาตกใจ จำอะไรไม่ได้ คำแก้วกลับบ้านไปแบบงุนงง ไม่แน่ใจว่าตนเองเป็นของทศพลหรือเปล่า

    ลำเจียกบอกกับทุกคนว่าคำแก้ว กับทศพล ผิดผีกันแล้ว คำปองเสียใจ แต่ทศพล กลับบอกว่า เป็นผัวเมียกันแล้ว  ทศพลขอรับผิดชอบ สุดท้ายคำแก้วกับทศพลจึงได้แต่งงานกันในที่สุด ซึ่งลึก ๆ แล้วคำปองก็ดีใจที่คำแก้วจะมีทศพลมาคอยปกป้อง

    พวกของบุญส่งหลอกทศพลว่าหากต้องการให้คำแก้วพ้นข้อกล่าวหาขอให้ทศพลนำชิ้นส่วนที่เป็นหงอนของรูปปั้นนำไปติดที่หน้าผากของคำแก้ว หากมีนางพญานาคีสิงอยู่นางจะปรากฏร่างออกมาและคำแก้วจะปลอดภัยเป็นคนธรรมดาไม่มีวิญญาณร้ายสิงสู่อีก ทศพลทำตามแท้ที่จริงแล้วการทำเช่นนั้นจะทำให้คำแก้วกลายร่างเป็นงูตลอดชีวิต คำแก้วเสียใจหนีไปยังปราสาทร้างกราบไว้พระอ้อนวอนขออยู่ในร่างคน เสียงจากพระพุทธรูปบอกเธอว่าให้ถือศีลอยู่แต่ในถ้ำนี้ห้ามออกไปไหนเด็ดขาดจนครบร้อยวันคำแก้วจะเป็นคนโดยสมบูรณ์ไม่มีวันกลายเป็นงูอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments