แถลงการณ์นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จวสรรคตแล้วในวันนี้ ณ โรงพยาบาลศิริราช นับว่าเป็นการสูญเสียและความวิปโยคยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ นับตั้งแต่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489
พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนได้ติดตามข่าวสาร และรับทราบมาเป็นลำดับว่า ในห้วงที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร และได้เสด็จไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะ เมื่อพระอาการบรรเทาลง ก็จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามปกติ ด้วยพระวิริยอุสาหะเพื่อความผาสุขของพสกนิกร ตลอดเวลาที่ผ่านมาคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด จนพระอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ยังความปราบปลื้มแก่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ แต่ในที่สุดพระอาการประชวรหาคลายไม่ ประกอบกับพระชนมพรรษามาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตพระชนมพรรษาปีที่ 89 เสร็จดำรงสิริราชสมบัติ 70 พรรษา ในวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งจะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทยตลอดไปนานแสนนานดุจวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม พี่น้องที่เคารพทั้งหลาย ระยะเวลา 70 ปีในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดชเริ่มต้นขึ้น ภายหลังจากที่มหาสงครามโลกเพิ่งสิ้นสุดลง ประเทศชาติกำลังฟื้นตัวจากภัยสงคราม ประชาชนเปี่ยมด้วยความหวัง เมื่อประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ครองราชย์เป็นผู้นำ เปลี่ยนความท้อแท้ของผู้คนกลายเป็นความแน่วแน่มั่นคง องอาจ ที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ตลอดพระราชสมัยในช่วงเวลาพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รัก เทิดทูน ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นับเป็น 70 ปี ที่ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามโดยแท้ บัดนี้ 70 ปีในรัชสมัยของสมเด็จพระภัทรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่งของปวงชนชาวไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมากมายล้นพ้นหาที่สุดมิได้มากเพียงใด ความวิปโยคอาลัยของพสกนิกรชาวไทยก็มากท่วมท้นหาที่สุดมิได้เพียงนั้น รัฐบาลของเชิญชวนให้พวกเราทุกคนรวมกันตั้งจิตภาวนาตามศาสนาที่ทุกท่านนับถือดั่งที่เราเคยรวมกันภาวนาถวายพระพร และอันเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านนับถือให้อภิบาลคุ้มครองตลอดเวลาที่ทรงพระประชวรเพื่ออธิษฐานภาวนาให้พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สถิตในสรวงสวรรค์ และอภิบาลคุ้มครองราชอาณาจักรไทย ประชาชนชาวไทย และพสกนิกรของพระองค์ให้มีความสงบสุข และความสันติสุข ดุจดั่งที่ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยมีมาโดยตลอดภายใต้ร่มพระบารมียาวนาน 70 ปี
พี่น้องประชาชนที่เคารพถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในยามทุกข์โศกน้ำตานองหน้าทั่วกันเพียงใด ประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเรา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่อยู่ในพระบรมโกศต้องดำรงต่อไป อย่าให้การเสด็จพระสวรรคตครั้งนี้ ทำให้พระราชปณิธานที่จะเห็นพระราชอาณาจักรของพระองค์มีความเจริญรุ่งเรือง พสกนิกรมีความผาสุขสวัสดีมีเมตตาและไมตรีต่อกันได้หยุดชะงักลง การจัดแสดงความจงรักภักดีและความอาลัยที่ดีที่สุด คือ เจริญรอยตามพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานที่จะรักษาเอกราช อธิปไตย ความสมบูรณ์พูนสุข และความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ตลอดจนการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส ที่เคยพระราชทานไว้
ภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการในบัดนี้มี 2 ประการ คือ การดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และตามกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช 2467 ตลอดจนตามพระราชประเพณี ในส่วนของการสืบราชสันตติวงศ์ ซึ่งสอดคล้องกับเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลจะแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในบรมโกศได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลไว้แล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 จากนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
อีกประการหนึ่ง คือ การเตรียมงานพระบรมศพ ในส่วนของรัฐบาลและประชาชนให้สมพระเกียรติยศ และสมกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อประบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทั้งนี้การดำเนินการทั้ง 2 ประการนี้ ทางรัฐบาลจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบในระยะต่อไป
ในช่วงเวลาต่อจากนี้เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายและราชประเพณี รัฐบาลจึงขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายรับฟังข่าวสารอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการ อย่าเชื่อข่าวที่ลือ ที่ไม่ปรากฏแหล่งอ้างอิง พร้อมกันนี้รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านแต่งกายถวายความอาลัยเป็นเวลา 1 ปี สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน และทุกภาคส่วนควรพิจารณางดการจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน ทั้งนี้ท่านทั้งหลายอาจเข้าร่วมพิธีหรือจัดกิจกรรมทางศาสนาของตน ถวายเป็นพระราชกุศลหรือจัดเป็นพระบรมราชานุสรณ์ อีกทั้งควรใช้โอกาสนี้ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพราะทุกคนต่างก็มีหัวอกเดียวกัน เพราะมีพ่อของแผ่นดินร่วมกัน และโปรดช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิให้ผู้ใดฉวยโอกาสแทรกเข้ามาก่อความขัดแย้งจนกลายเป็นความวุ่นวาย ขอพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้วยการรักษาแผ่นดินของพ่อ ด้วยความรักและความสามัคคีตลอดไป
พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งหลาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตแล้ว ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลใหม่ทรงพระเจริญ