"อั้ม-นัท" เสียค่ายาบำรุงเหยียบล้าน ยังมีหวังขอเดินหน้าเพื่อมีลูกต่อ!
"อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" เผยตนและภรรยาสาว "นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้" กินยาบำรุงมาราคาเหยียบล้าน เตรียมร่างกายให้พร้อมมีลูก ให้ฝ่ายหญิงพักงานเข้ากอง ขอใช้ทั้งวิทยาศาสตร์ กึ่งธรรมชาติ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เป็นอีกหนึ่งคู่รักที่หลายๆ คนลุ้นอยากให้มีทายาทแล้ว สำหรับคู่ของหนุ่ม "อั้ม อธิชาติ" และสาว "นัท มีเรีย" ซึ่งล่าสุดแว่วมาว่าทางฝ่ายชายให้ภรรยาเบรกเข้ากองละครเพื่อดูแลร่างกายเตรียมมีลูก โดยงานนี้ทางไทยรัฐออนไลน์ได้รายงานถึงเรื่องดังกล่าวว่า
จริงๆ ก็บำรุงไปเรื่อย อะไรที่ทานแล้วเป็นประโยชน์ก็จะทานไป แต่ไม่ได้เคร่งเครียดมาก ไม่ได้กินทุกอย่างเพื่อให้ท้อง เพราะเรามองว่าการเกิดก็คือธรรมชาติ ส่วนเราก็ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายทุกวันไปหาหมอเป็นระยะ ถ้าช่วงไหนทำงานหนัก พักผ่อนน้อยคุณหมอก็จะบอกแล้วว่าช่วงนี้สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดีนะ เราก็ต้องดูแลตรงนี้
มีกินยาบำรุง จะมียาจีนครับ เป็นยาที่แพงมาก คือ ถ้ากินเดือน 2 เดือนไม่เป็นไร อาทิตย์นึง ของคุณนัท 7 พัน แต่ของผม 1 หมื่น อาทิตย์ต่อไปคุณนัทต้องกินเพิ่มเป็น 8 พัน แต่ของผม 5 พัน 2 อาทิตย์ 3 หมื่น ปีนึงตกปีละ 6 แสน นี่กินมา 2 ปีแล้วเป็นหมอที่พี่เยลลี่แนะนำให้ บำรุงกันเยอะมาก
เคยลองวิทยาศาสตร์เต็มตัวไปแล้วครั้งนึงตอนนี้ก็เลยขอใช้วิทยาศาสตร์กึ่งๆ ธรรมชาติก็แล้วกัน ไสยศาสตร์ก็ไปขอๆ ลูกอยู่เรื่อยๆ ครับ ขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้งมงาย เวลาขอก็จะขอให้ได้ลูกที่เป็นอภิชาตบุตรที่ส่งเสริมศาสนา ส่งเสริมสังคม ส่งเสริมประเทศชาติ แต่ไม่เคยบนบานศาลกล่าว
แต่ซ้อมมือเลี้ยงหลานรอครับ ตอนนี้ฟ้าโปรดยังไม่ร้อง ฤทธิ์ยังไม่เยอะ ก็อยากมีตั้งแต่เด็กๆ แต่ความที่อยากจะมี คือตอนที่เห็นน้องอลิน อลัน เริ่มโต พอเริ่มโต เราเริ่มปลูกฝังเค้าได้เริ่มสอนให้เค้าทำตาม เริ่มเปลี่ยนเค้าได้ ให้เค้าทำตาม เราสนุกกับตรงนี้ อย่างสอนให้เค้าพูดเพราะๆ สอนให้เค้ารู้จักความลำบาก เวลาไปวัดก็จะพาเค้าไปด้วย สอนเค้ากินข้าวเสร็จก็พาเค้าไปล้างจานมันทำให้รู้สึกอยากจะสอนให้มนุษย์คนนึงให้เค้ารู้จักเอาตัวรอดได้ รู้จักช่วยเหลือสังคม เข้าใจ ก็แอบคิดเล่นๆ จะพาเค้าทำกิจกรรม ก็มีคุยกับคุณนัทว่าถ้ามีลูกจะเลี้ยงแบบนี้ๆ นะ ส่งไปเรียนโรงเรียนประจำที่อยู่ต่างจังหวัด สอนให้ปลูกต้นไม้ สวดมนต์ แต่คุณนัทไม่โอเค (หัวเราะ) เพราะเค้าบอกว่าพูดแบบนี้แล้วเด็กที่ไหนเค้าจะมาเกิด แต่มีสิ่งนึงที่เราคิดเหมือนกันคือ ห้ามส่งไอแพดให้ตอนกินข้าว ไม่รู้ว่าจะทำอะไรให้หยุดร้องก็ห้ามส่งไอแพด ตอนเด็กๆ เราไม่มีไอแพดเราก็หยุดร้องได้ กลัวเค้าจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม เด็กที่โตมาแบบนี้จะไม่รู้จักเอาใจใส่คนอื่น