ถกประเด็น เปิดอก!! เควนติน ทารันติโน ผู้กำกับฯ  The Hateful Eight แปดพิโรธ โกรธแล้วฆ่า

ถกประเด็น เปิดอก!! เควนติน ทารันติโน ผู้กำกับฯ The Hateful Eight แปดพิโรธ โกรธแล้วฆ่า

1

ถกประเด็น เปิดอก!! เควนติน ทารันติโน ผู้กำกับฯ The Hateful Eight แปดพิโรธ โกรธแล้วฆ่า

      คิดว่ามันแตกต่างจากผลงานก่อนหน้านั้นหรือเปล่า Django Unchained  และ Inglorious Basterds ซึ่งสองเรื่องล้วนประสบความสำเร็จทางรายได้ แล้วรายรับในบ็อกซ์ ออฟฟิศมีผลกระทบอะไรหรือเปล่า

ทารันติโน: ก็ไม่ได้แตกต่างเท่าไร ตราบเท่าที่ผมอยากจะทำหนังเรื่องที่ผมอยากจะเล่า แต่ผมก็เรียนรู้บทเรียนมหาศาลจากกรณี Grindhouse และจะไม่ให้เกิดกรณีนี้อีกครั้ง ทั้งโรเบิร์ต ร็อดริเกวซและผมก็คุ้นเคยแนวทางของตนเอง

      คุณมักจะพูดถึงวิธีการกำกับหนังแต่ละเรื่องว่าไม่ต่างจากการเป็นวาทยากรที่ควบคุมออร์เคสตรา แล้วผู้ชมก็ค่อยๆเข้าใจความหมายและคุ้นเคยกับสไตล์ของคุณเอง

ทารันติโน: พูดตรงๆว่า คนดูฉลาดไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่คนดูที่ไร้สติปัญญานี่สิคือปัญหา กระนั้นผมคิดว่าเดี๋ยวนี่คนดูเริ่มรู้เท่าทัน ฉลาดขึ้นมากขึ้นซึ่งก็คือผลผลิตแต่ละยุคแต่ละสมัย เทคนิคก็คือจงไปให้สุดทาง ดังนั้นพวกเขาก็จะไม่แอบหัวเราะกับหนังของคุณในภายภาคหน้า อย่างเรื่อง Pulp Fiction ผู้ชมคงรู้สึกทำนองว่า “ว้าว ฉันไม่เคยดูหนังอะไรแบบนี้มาก่อนเลย หนังเรื่องนี้มันทำได้ไงวะ” ผมคิดว่าจะไม่เกิดกรณีนี้อีกต่อไปแล้ว ผมคิดว่าผู้ชมที่ดู Django Unchained และ Inglorious Basterds ก็จะรู้สึกแบบนี้เช่นกัน แต่จะเคยชินและเข้าใจในสิ่งที่ผมทำหนังนั่นแหละ

      อยากทราบว่าหนังเรื่อง The Hateful Eight กล่าววถึงอะไรเกี่ยวกับยุคสมัยนี้

ทารันติโน: ผมไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้ให้เป็นหนังร่วมสมัยใดๆเลย ผมแค่อยากจะเล่าเรื่องเท่านั้นเอง มันออกจะเกินเลยไปหน่อยถ้าคุณจะฝืนพยายามทำเป็นหนังร่วมสมัย จะเป็นคาวบอยฮิปปี้ หรือแนวตะวันตกแบบสวนกระแสใดๆก็ตาม

     หนังใช้ฉากหลังเป็นยุคสงครามกลางเมือง แบบเดียวกับหนังเรื่อง The Good, the Bad and the Ugly

ทารันติโน: หนังเรื่อง The Good, the Bad and the Ugly ไม่ได้เจาะลึกเรื่องความขัดแย้งทางเชื้อชาติในยุคสงครามกลางเมืองเลย เหมือนแค่เป็นเหตุการณ์ส่วนหนึ่งในหนัง แต่หนังของผมเล่าเรื่องบ้านเมืองที่แตกสลายเพราะความขัดแย้งเหล่านั้น และผลที่ตามมาหลังจากนั้น

     นั่นแหละที่หนังเรื่องนี้ดูเป็นหนังร่วมสมัย เพราะปัจจุบันใครๆก็พูดถึงเรื่องเชื้อชาติ

ทารันติโน: ผมรู้ ผมเลยตื่นเต้น

      ตื่นเต้นเหรอ

ทารันติโน:  เพราะในที่สุดแล้ว ประเด็นเรื่องความสูงส่งของคนผิวขาวกำลังจะกลายเป็นที่พูดถึงและเป็นข้อถกเถียงซึ่งเป็นสิ่งที่หนังเรื่องนี้จะนำเสนอ

      หนังที่ผ่านๆมาก็ใช้ซูเปอร์สตาร์นำแสดงอย่าง Django Unchained ก็มีเจมี่ ฟ็อกซ์ และลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ จนถึงหนังเรื่องนี้ก็ได้ เคิร์ต รัสเซลล์, แซมมวล แอล แจ็คสัน และเจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์ คุณรู้สึกกดดันหรือไม่ที่ได้ดาราดังๆมาร่วมงาน

ทารันติโน: ไม่หรอก ถ้ามีบทที่ดาราดังสามารถเล่นได้ แล้วพวกเขาสนใจจริงๆ ก็ต้องมีแรงกดดันอยู่แล้วในการพิจารณาพวกเขา ผมไม่มีปัญหาหรอก นอกเสียจากผมไม่ปลื้มใครบางคนมากนัก เพราะใครบางคนที่เป็นดาราดังก็ไม่ได้หมายความว่าแฟนๆของเขาหรือแฟนหนังของผมอยากเห็นเราทำงานด้วยกัน มันขึ้นอยู่กับตัวนักแสดงและการที่เขาถ่ายทอดบทบาทได้ดีขนาดไหนนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หนังเรื่องนี้เป็นงานที่ลีโอนาร์โดและแบรด พิทท์ (Inglourious Basterds) ไม่อาจทำได้ มันต้องอาศัยทีมนักแสดงโดยเฉพาะพวกไม่ค่อยมีชื่อ

      จุดประสงค์ในการเลือกเจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์มาเล่นเรื่องนี้

ทารันติโน: ผมชื่นชอบเธอไง และผมคิดว่าจะทำหนังเรื่องนี้ให้กลายเป็น Reservoir Dogs ฉบับคาวบอยตะวันตกเลยนึกบางอย่างที่เหมาะกับยุคนั้นที่หนังเรื่องนั้นออกฉาย ใครที่เป็นกระแสมาแรงในยุค 90 ผมจึงเลือก ไมเคิล แมดเซ่น, ทิม ร็อธ และ เคิร์ต รัสเซลล์ ส่วนดาราหญิงที่เหมาะเป็นเดซี่นั้น ผมคิดว่าถ้าเป็นดาวดังในยุคนี้อย่าง เจนนิเฟอร์ ลอวเรนซ์ ก็ทำได้ดีนะ ผมเป็นแฟนหนังของเธอด้วย แต่ตัวเดซี่ต้องเป็นคนที่มีอายุซักหน่อยที่เหมาะสมกับตัวละครอื่นๆในหนัง เมื่อเจนนิเฟอร์ เจสัน สีห์ปรากฏเข้ามา เธอเจ๋งสุดๆ เธอเข้าถึงบทบาทในขณะที่คนอื่นก็ได้แต่แสร้งทำเท่านั้น ผมยังจำเสียงหวีดร้องของเธอได้ไม่ลืม ถ้าเกิดขึ้นในชีวิตจริง ป่านนี้คงเรียกตำรวจให้วุ่นแล้ว

      หนังของคุณมักถูกวิจารณ์เรื่องความรุนแรงและใช้คำ N-Word (มาจากคำเรียกคนผิวสีเชิงดูถูกเหยียดหยาม) คุณสนใจคำวิจารณ์เหล่านั้นหรือเปล่า

ทารันติโน: พวกนักวิจารณ์ส่วนใหญ่ไม่มีความหมายอะไรกับผมหรอก มันง่ายมากที่จะไม่สนใจพวกเขาเพราะผมเชื่อในสิ่งที่ผมลงมือทำ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นพวกนักวิจารณ์ก็ช่างหัว มันอาจจะฉุดรั้งบ้างในบางคราว แต่หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป ก็มักลงเอยแบบไม่ต่างจากการราดน้ำบนกองไฟ

      คุณคว้ารางวัลออสการ์สาขาบทหนังยอดเยี่ยมมา 2 ครั้งแล้วมันทำให้คุณอึดอัดหรือเปล่าที่ไม่เคยได้รางวัลสาขาผู้กำกับซักที

ทารันติโน: ไม่หรอก แม้ผมเคยหวังว่าจะคว้าออสการ์สาขาผู้กำกับจากหนังเรื่อง Inglourious Basterds แต่ผมก็ภูมิใจนะ จนผมเอาไปโม้ได้เลยนะว่าผมเป็น1 ใน 5 ที่คว้า 2 ออสการ์สาขาบทดั้งเดิมยอดเยี่ยม อีก 4 คนที่เหลือคือ วูดดี้ อัลเลน, ชาร์ลส แบร็คเก็ต, บิลลี่ ไวลเดอร์ และแพดดี้ ชาเยฟสกี้ คือผมไม่เคยรู้มาก่อนจนกระทั่งมีคนเขียนบนเว็บไซต์ ผมเลยรู้สึกว่า แม่เจ้า! นี่คือเหล่ามือเขียนบทผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในฮอลลีวู้ดนี่หว่า ตอนนี้วูดดี้ อัลเลนแซงหน้าเราไปแล้ว เขาคว้าไปสาม ถ้าผมคว้าได้อีกก็เสมอเขาแล้ว

     ตัวละครในหนังของคุณล้วนมีความแค้นเป็นแรงผลักดัน แต่คุณก็ให้อภัยพวกเขาได้ในภายหลัง บรูซ เดิร์นเคยถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในกรณีบทหนังถูกปล่อยตามอินเตอร์เน็ต แต่เขาก็ยังเล่นหนังเรื่องนี้ คอมโพสเซอร์ เอนนิโอ มอร์ริโกเน เคยวิจารณ์หนัง Django Unchained และบอกว่าจะไม่ร่วมงานกับคุณอีก แต่สุดท้ายเขาก็มาทำดนตรีประกอบให้หนังเรื่องนี้ คุณรู้สึกสบายใจขึ้นบ้างหรือเปล่า

ทารันติโน:  ผมอาจจะสบายใจขึ้นซึ่งก็ดีนะ ผมเคยเลือดร้อนบ้าง แต่ถ้าผมโกรธตอนนี้ขึ้นมา คงรู้สึกทำนองว่า “ปัญหามันคืออะไรวะ” ชีวิตผมก็แย่พอแล้ว ผมโกรธ รำคาญสุดๆ แต่ตอนนี้สบายใจขึ้นแล้ว ชีวิตมันสั้นนะ

ถกประเด็น เปิดอก เควนติน ทารันติโน ผู้กำกับ  The Hateful Eight แปดพิโรธ โกรธแล้วฆ่า ภายนตร์ หนัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“หญิง-ตุลย์” เคลียร์ข่าวขาเตียงหัก สามีมีโลก 2 ใบ ลั่นถ้ามีจริงพร้อมเลิกทันที

เติบโตอีกขั้น!!  “มีนา ริณา” ทุ่มเงินลงทุน 8 หลัก เดบิวต์เป็นนักธุรกิจ

ถ่ายทำในไทย “นาย กรชิต” ร่วมรายการวาไรตี้จีนชื่อดัง ออกอากาศตอนแรกแล้วจ้า

อนุโมทนาบุญ “บุ๋ม ปนัดดา” ขอบคุณ “อิงฟ้า” ร่วมทำบุญซื้อโลงเย็นให้กับวัดบ้านเกิด

เริ่มแล้ว! “แจม รชตะ” เตรียมสร้างบุญใหญ่หล่อพระ แฟนคลับร่วมอนุโมทนาสาธุ

“พิมฐา ฐานิดา” โชว์ทูพีชเบิร์ดเดย์ฉลองวัย 31

“แม่ลี” เคลียร์ดราม่า ยันพูดความจริง อัปเดตงานแต่ง “แก้มบุ๋ม” เตรียมเป็นคุณแม่เรียบร้อย

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments