"เคลลี่" เล่าเบื้องหลังการถ่าย "เพลิงพระนาง" เผยเล่น "สารวัตรเถื่อน" บู๊เรื่องแรกที่ยอมใช้สแตนด์อิน

"เคลลี่" เล่าเบื้องหลังการถ่าย "เพลิงพระนาง" เผยเล่น "สารวัตรเถื่อน" บู๊เรื่องแรกที่ยอมใช้สแตนด์อิน

        นับว่าเป็นละครฟอร์มยักษ์ที่หลายคนตั้งตารอคอยกับเรื่อง "เพลิงพระนาง" ที่ได้ดาราระดับซุป'ตาร์โคจรมาเล่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสาว "อั้ม พัชราภา" สาว "ยุ้ย จีรนันท์" รวมทั้งพระเอกหนุ่ม "เคลลี่ ธนะพัฒน์" ซึ่งล่าสุดมีโอกาสได้สัมภาษณ์หนุ่ม "เคลลี่" เจ้าตัวก็เล่าถึงการทำงานในกองละคร "เพลิงพระนาง" รวมทั้งอัพเดทผลงานในช่วงนี้ให้ฟังว่า

        "หลังปีใหม่คงได้ลุยกันหนักขึ้น เป็นละครที่ดี ตอนแรกกังวลเล็กน้อยเรื่องของภาษา การเล่นมันจะยากเนื่องจาก หนึ่งภาษายาก แต่พอได้เข้าฉากแล้วทุกคนเป็นมืออาชีพหมด ทุกคนมาด้วยความตั้งใจในการทำงาน เป็นบรรยากาศที่ไม่ตึงเครียด มีแต่คนเก่งๆ ทั้งนั้น ทุกคนก็ช่วยกันส่งอารมณ์ ส่งบทบาท แล้วมันเป็นการทำงานที่ไม่ตึงเครียด สบายๆ สนุก พอเข้าฉากแล้วทำได้มันเหมือนมีความภาคภูมิใจ การเป็นนักแสดงแม้ว่าผมจะเป็นนักแสดงมาเป็น 10 ปีก็ยังมีความท้าทายอยู่ทุกเรื่องที่เราเล่น มันมีความตื่นเต้น มีความอยากพัฒนาตัวเอง มันไม่ได้ง่ายนะการเป็นนักแสดง ทุกเรื่องที่เราเล่นมันไม่ใช่ตัวเรา เราต้องหาความเป็นตัวเราเข้าไปใส่ในตรงนั้น แต่บางทีไม่ใช่ตัวเราเลย ก็ต้องศึกษาตัวแสดงให้หนัก เพราะฉะนั้นมันเป็นความท้าทายทุกครั้งที่เรารับบทใหม่ มันเป็นความตื่นเต้น แต่นี่เป็นสิ่งที่ดี ทำให้เราพัฒนาตัวเอง

        ในเรื่อง 'เพลิงพระนาง' เชื่อมั่นทางค่าย ผู้กำกับฯ นักแสดงอยู่แล้ว ทุกคนทำงานได้ดีอยู่แล้ว เราคงทำได้ดีในเวอร์ชั่นของเรา อย่าไปเปรียบเทียบ เรื่องเขาก็ได้ปรับนิดนึง ไม่ได้ปรับมาก อาจจะปรับให้เข้ากับยุคสมัยนี้มากขึ้น แต่เราเปรียบเทียบไม่ได้ เพราะในยุคนั้นเขาก็ทำได้ดีมาก เราทำได้ดีอยู่แล้วเพราะทุกคนเป็นนักแสดงมืออาชีพและตั้งใจมาก เขาคัดมาแล้ว ก็มีคนไปเปรียบเทียบ ผมบอกได้เลยว่าถ้าจะทำให้มันเหมือนเดิมจะทำไปทำไม มันก็ต้องมีความแตกต่าง มีคนบอกเวอร์ชั่นที่แล้วทำได้ดีเลยดังมาก ก็เข้าใจนะ การที่เราจะทำละครรีเมคที่ดังก็คิดว่าเราก็ทำได้ดีในแบบของเรา เป็นกำลังใจให้เราดีกว่า อย่าเพิ่งเปรียบเทียบและจับผิด เราไม่ได้แข่งกับเขา จริงๆ ค่ายกันตนาก็ทำมาก่อน คนเขียนบทก็คนเดิม ฝ่ายเสื้อผ้าก็ทีมเดิม ทำไมไม่เหมือน คือ เขาตั้งใจ

        ด้านนักแสดงน่ารักทั้งหมด ถ้าพูดถึงความเป็นช่อง 7 นักแสดงทุกคนเหมือนครอบครัว อย่าง อั้ม พัชราภา หรือ ยุ้ย จีรนันท์ ผมไม่เคยร่วมเล่นละครกันมาก่อน แต่ก็ได้เห็นหน้าบ่อยๆ เคยเจองานช่อง งานต่างๆ พอเรามาร่วมงานกัน มันก็มีความรู้สึกเหมือนคุ้นเคยกัน พอได้เข้าฉากจะเห็นว่าแต่ละคนมีความตั้งใจในการทำงาน มีความเป็นกันเอง น่ารัก ก็ทำให้เราทำงานแล้วสบายใจ อย่างพี่เหมียว ชไมพร ก็มาแสดงเรื่องนี้เป็นแม่ผม ก็เป็นคนน่ารักมาก อย่างแรกผมก็เข้าไปฝากเนื้อฝากตัว อยากให้ช่วยแนะนำนะครับ ยิ่งในเรื่องเป็นแม่ผม เราต้องสนิทกัน ในเรื่องผมต้องมีเมียเยอะด้วย มันก็ต้องสนิท อย่างคนอื่นๆ ผมเคยร่วมละครมาแล้ว อย่างกระติ๊บ, ต่าย, โอ๋ คือหลายคน จะมารุ่นลูกผมก็สนิทเหมือนกันก็เลยสบาย ผมต้องแสดงบทที่มันใกล้ชิด ต้องมีการนัวเนีย แต่อย่างที่บอกทุกคนเป็นมืออาชีพก็ทำให้การแสดงมันสบาย แต่บทต่างๆ ที่เราต้องใกล้ชิด เราเข้าฉากกับผู้หญิง เราก็ฟังผู้กำกับฯ แล้วก็ขอโทษเขาก่อน ผมจะบอกว่าแฮปปี้กับเรื่องนี้

       ในส่วนของน้องนายไม่มีหึงเล่นบทแบบนี้ คนชอบคิดว่าทำไมนักแสดงถึงชอบคบกันเอง คือ หนึ่งมันก็มีความเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือเรื่องของเวลา บางทีติดต่อไม่ได้เลย ครึ่งวัน ทั้งวัน เราไม่ได้พกโทรศัพท์เข้าฉากหลายชั่วโมง เหมือนคนทำงานอาชีพเดียวกัน เราต้องคิดว่าในเมื่อเราทำงานอาชีพนี้เราก็เจอแต่นักแสดงที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มันไม่มีโอกาสได้เจอคนอื่น เป็นนักแสดงก็เข้าใจกันอยู่แล้ว ไม่เคยมีเรื่องหึงหวงมาเป็นปัญหา

       สำหรับการถ่ายทำยังไม่รู้ว่าแพลนถ่ายถึงเมื่อไหร่ ต้องเข้าใจว่าคนรอดู แค่คนอยากดูก็เป็นกำลังใจให้เราแล้ว แต่มันเป็นละครที่ถ่ายยาก หนึ่งนักแสดงเยอะมาก ฉากแต่ละฉากต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ต้องไปถ่ายทางเหนือจริงๆ ในฉากหลายฉาก เราไม่สามารถไปถ่ายวังได้ทุกฉาก แต่ละคนต้องมีคุ้มของตัวเองต้องสร้างขึ้นมา มีฉากที่ทำเราอึ้ง เสื้อผ้าแต่ละชุดก็ตัดมาแต่ละคน อลังการ ลงทุนเยอะมาก ต้องใช้เวลานานพอสมควร อยากให้งานออกมาดีที่สุด

       นอกจากนี้แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่ง 'สารวัตรเถื่อน' ถ่ายไปพอสมควรแล้ว ก็ใกล้จะออนแอร์แล้ว แสดงคู่กับน้องเกรซ กาญจน์เกล้า เรื่องนี้บู๊หนักเหมือนกัน ได้แผลตลอด เนื่องจากผมเป็นคนที่เรื่องคิวบู๊อะไรผมก็เล่นเอง จะมีบางอย่างที่เขาบอกว่ามันอันตรายเกินไป ส่วนมากผมจะเล่นเองหมดเท่าที่ผมทำได้ เอาเป็นว่าผมไม่เคยใช้สแตนด์อินมาก่อนเลย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมยอม อย่างเช่นขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นตึก ผมลองแล้วมันดูอันตรายเกินไป ตึกร้างมันไม่ปลอดภัย แต่อย่างขึ้นสลิง โดดออกมาจากตึก 5 ชั้นผมก็เล่นเอง เล่นหนังบู๊ทุกเรื่องผมจะมีแผลทุกเรื่อง แต่เล่นบู๊มันต้องมีบ้าง จะเห็นว่าเราตั้งใจ นี่ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ใกล้ออนแอร์แล้ว ฝากแฟนๆ ละครที่รออยู่ด้วย ส่วน 'เพลิงพระนาง' ก็อดใจรออีกพักนึง อยากให้เห็นจริงๆ ที่เห็นในฟิตติ้ง บวงสรวงยังนิดเดียว เอาอันนั้นไปคูณร้อย เราก็ดีใจที่แฟนๆ รอ เชื่อได้เลยจะทำออกมาดีที่สุด ตั้งใจทำกันเต็มที่"