"ฌอห์ณ" ยืนยันคำเดิมเอ็นดู "เอสเธอร์" ควงคู่โต้เลือกงานเยอะ ปัดอัพค่าตัว
ชั่วโมงนี้คู่จิ้นที่มาแรงสุดๆ คงจะเป็น "ฌอห์ณ จินดาโชติ" และ "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" หลังจากประสบความสำเร็จจากละคร "เล่ห์รตี" ที่ฟีดแบ็คดีเกินคาด ส่งผลให้ทั้งคู่ขึ้นทำเนียบคู่จิ้นคู่ใหม่ของวงการ และฮอตมากๆ ในตอนนี้ และเมื่อทั้งคู่ควงคู่มาออกงานด้วยกันก็มีแฟนคลับมาให้กำลังใจกันล้นหลามเอเทรียมสยามเซ็นเตอร์
งานนี้ทั้งคู่ก็ได้เปิดใจและเผยความรู้สึกกับกระแสคู่จิ้นว่า "งานคู่กันก็ดี เราสองคนเคยออกงานคู่กันบ้างแล้ว แต่ครั้งนี้ครั้งแรกที่เป็นในห้างฯ มีคนมาให้กำลังใจก็ดีใจ ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ ช่วงนี้งานที่ติดต่อมาก็ประปราย มีทั้งคู่และเดี่ยว ก็ได้มาจากฟีดแบ็คละครทั้งหมด เราเองก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีกระแสดีขนาดนี้ ถามว่าตั้งตัวทันไหมก็พยายามจะระวังตัวให้ดีที่สุดในการทำอะไรก็แล้วแต่ อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
งานคู่ก็จะมีด้วยกันเรื่อยๆ ต้องรอติดตามทั้งเดือนนี้และก็เดือนหน้า งานแฟนมีตติ้งก็คิดว่าจะมีในเร็วๆ นี้ เรื่องขึ้นค่าตัวนั้นก็คงต้องขึ้นอยู่กับทางผู้จัดการ ตามความเหมาะสมของงานแค่ไหน"
สำหรับเรื่องกระแสคู่จิ้นที่ถูกลุ้นให้เป็นตัวจริงนอกจอนั้น เรื่องนี้หนุ่ม "ฌอห์ณ" ก็ยังคงยืนยันว่า "เอ็นดูน้อง เราอยู่ในพื้นที่ของความเหมาะสม เขามีอะไรปรึกษาเราก็ยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างดี ตอนนี้ยังมองเรื่องงานเป็นหลักก่อน เราเองยังได้เจอกันอีกยาว ก็ดูแลกันไปในแบบพี่น้องที่สนิทกันแบบนี้ก็ดี"
ส่วนด้าน "เอสเธอร์" ก็เผยว่า "การทำงานร่วมกันทำให้รู้จักกันมากขึ้น กับเรื่องที่หมากแซวว่าเป็นแฟนกัน ก็ขำๆ กันมากกว่า เป็นเรื่องแซวกันทั่วไป"
หนุ่ม "ฌอห์ณ" ก็ได้เผยว่า "แรงเชียร์ที่ได้รับหวั่นไหวไหม ตรงนี้เราคิดว่าเราโตแล้ว เรื่องของความรู้สึกก็คือเรื่องของความรู้สึก เราเองจะมาเล่นแง่กับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ ใครจะมาผลักดันเราแค่ไหนถ้าหัวใจเราไม่ได้ตอบรับมันก็ไม่ได้ แต่ทุกวันนี้เราอยู่ในทิศทางที่ดี ช่วยเหลือกันเท่าที่ทำได้ก็โอเคแล้ว มันก็ยังไม่มีอะไรมากด้วย"
"เอสเธอร์" บอกต่อว่า "เราไม่มีสเป็ค อยู่ที่ว่าคุย รู้จักกันแล้วสบายใจไหมมากกว่า เรื่องของเรากับพี่เขาก็คงเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ยังโฟกัสเรื่องของงานมากกว่าด้วย ก็สนิทกันแบบพี่น้อง ยังไม่เห็นท่าทีพี่เขาจะมาจีบเราเลย แต่ด้วยงานของเราตอนนี้ก็จะถือว่าต้องเจอกันเยอะก็สนิทกันด้วย
ส่วนเรื่องสัญญาเราเองก็ยังไม่คิดจะเซ็นกับใครแต่เราจะพิจารณางานให้ช่อง one เป็นที่แรกๆ เพราะด้วยโอกาสที่ได้รับ ถามว่าเลือกรับงานไหมพอดังแล้ว ก็ด้วยเรื่องของคิวและเวลาอาจทำให้เราพลาดบางงานไปได้ ก็เป็นเรื่องของผู้จัดการในตรงนี้ กับกระแสก็ไม่ซีเรียส มันเป็นเรื่องปกติ แล้วแต่คนจะมอง
กับการตัดสินใจที่เป็นอิสระแล้วดีขึ้นถือว่าตัดสินใจถูกไหม ก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะดีหรือไม่ดี แต่ตอนนั้นเราคิดแค่ว่าเราโอเค สบายใจ แต่พอออกมาแล้วมันได้การตอบรับที่ดี ก็ขอบคุณและยินดีกับมัน และจะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ"
สำหรับเอสเธอร์นั้นก็บอกว่าตัวเองนั้นไม่มีสเปค อยู่ที่ว่าคุยรู้จักกันแล้วสบายใจไหมมากกว่า เรื่องของเรากับพี่เขาก็คงเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ยังโฟกัสเรื่องของงานมากกว่าด้วย ตอนนี้ก็สนิทกันพี่น้องก็ยังไม่เห็นท่าทีพี่เขาจะมาจีบเราเลย แต่ด้วยงานของเราตอนนี้ก็จะถือว่าต้องเจอกันเยอะก็สนิทกันด้วย
ส่วนเรื่องสัญญา เราเองก็ยังไม่คิดจะเซ็นกับใครแต่เราจะพิจารณางานให้ช่องoneเป็นที่แรกๆ เพราะด้วยโอกาสที่ได้รับ ถามว่าเลือกรับงานไหมพอดังแล้ว ก็ด้วยเรื่องของคิวและเวลา อาจทำให้เราพลาดบางงานไปได้ ก็เป็นเรื่องของผู้จัดการในตรงนี้ กับกระแสก็ไม่ซีเรียส มันเป็นเรื่องปกติแล้วแต่คนจะมอง
กับการตัดสินใจที่เป็นอิสระแล้วดีขึ้นถือว่าตัดสินใจถูกไหม ก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะดีหรือไม่ดี แต่ตอนนั้น เราคิดแค่ว่าเราโอเคสบายใจ แต่พอออกมาแล้วมันได้การตอบรับที่ดี ก็ขอบคุณและยินดีกับมันและจะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ