"เก้า" กับ 9 ปีที่มุ่งมั่น พัฒนาทุกก้าวอย่างเต็มที่

‘เก้า’ กับ 9 ปีที่มุ่งมั่น พัฒนาทุกก้าวอย่างเต็มที่

     เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการบันเทิงมายาว นานกว่า 9 ปี จากวัยเด็กชายจนกลายเป็นหนุ่มน้อย “เก้า-จิรายุ ละอองมณี” พระเอกภาพยนตร์น่ารัก “ตุ๊กแกรักแป้งมาก” เผยประสบการณ์ในการทำงาน ไม่ได้เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับตัวเองเท่านั้น เพราะความสามารถที่ได้จากการทำงานก็โตตามตัวด้วย 

กับ 9 ปีในการทำงานวงการบันเทิง

     “เผลอแป๊บเดียวก็  9 ปีแล้วครับ กับการทำงานในวงการบันเทิงของผม เหมือนชื่อผมเลย ตอนนั้นเล่น
มีบทในภาพยนตร์เรื่อง ‘จานบิน’ นานมากแล้วครับตอนนั้นยังจำความไม่ได้สักเท่าไร จนมาเป็นที่รู้จักจริงๆ ก็ตอนที่เล่นภาพยนตร์เรื่อง ‘ตำนานสมเด็จ
พระนเรศวร ภาค 1 ตอน องค์ประกันหงสา’ หลังจากนั้นที่คนจำผมได้เยอะมากที่สุดๆ ก็ตอนภาพยนตร์   เรื่อง ‘ห้าแพร่ง’ จากนั้นก็มีโอกาสดีๆ เรื่อยมา ที่ผู้ใหญ่และผู้ชมมอบให้จนมีเก้าในทุกวันนี้”

 
งานให้อะไรกับ  “เก้า” มากกว่ารายได้

     “เรียกว่าจากเด็กมาสู่วัยที่เป็นวัยรุ่น การทำงาน ในวงการบันเทิงหลากหลายด้าน ทั้งงานแสดง งาน    อีเว้นท์ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณาต่างๆ ให้ทั้งอาชีพและประสบการณ์การใช้ชีวิตในแง่มุมต่างๆ กับผมเยอะบางอย่างแรกๆ ก็ไม่เข้าใจ แต่พอได้เรียนรู้ก็ทำให้เราโตขึ้นพร้อมประสบการณ์ที่ดีๆ เยอะมาก”
 
รู้สึกตัวเองโตขึ้น ไม่ใช่แค่อายุที่เพิ่มขึ้น  

     “ใช่ครับ ไม่ใช่แค่อายุที่เพิ่มขึ้น ผมเองรู้สึกว่าโตขึ้นมีความรับผิดชอบเยอะ สิ่งที่คนอื่นมองผมจากเด็กๆ ในอดีตมันมีข้ออ้างได้ ตอนเด็กก็อาจอ้างได้ว่าผมไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือทำตัวงี่เง่า ไม่มีใครว่าอะไร อาจจะมองว่าน่ารักด้วยซ้ำ พอโตแล้วไม่ได้มีความน่ารักแบบเด็กให้หลงเหลือ แต่กลับทำตัวเด็กๆ ซึ่งตรงนี้เกิดการเรียนรู้ มีการปรับตัวมากขึ้น ผมว่าธรรมชาติสร้างให้ทุกคนต้องปรับตัวไปพร้อมๆ กัน พอผมเจอเรื่องกดดัน ต้องรู้แล้วว่าการแก้ปัญหาในแบบของผู้ใหญ่เป็นยังไง ก็ต้องแตกต่างแน่นอน ก็ต้องมีความคิดที่ซับซ้อนมากขึ้นแล้วก็ต้องมีความอดทนมากขึ้น”

ประสบการณ์เป็นครูที่ดี

     “แน่นอนทุกๆ อย่างทำให้ผมโตขึ้น มีประสบการณ์ขึ้น มันทำให้ต้องรู้อะไรเยอะขึ้น ต้องทำยังไงที่เรียกว่านิ่งมากขึ้นให้ได้ จากการที่ตรงนั้นใช่ หรือไม่ใช่ ได้ลองผิดลองถูก ทุกอย่างเป็นประสบการณ์ ทุกอย่างเป็นครูในชีวิตที่ดีมากๆ”

ยึดหลักอะไรในการก้าวผ่านอุปสรรค

     “อยู่ที่ทัศนคติมากกว่า พอโตขึ้นสำหรับผมไม่ใช่แค่ว่าไปทำงานได้เงิน รับงานอีเว้นท์แล้วจบ เพราะจะคิดเสมอว่าทำงานแต่ละครั้งต้องมีฟีดแบ็ค คนจะมองอย่างไร ทำให้เรามีมุมมองกับงานเป็นศิลปะ หรือมองเป็นธุรกิจ ทำให้รู้ว่าแต่ละคนต้องคุยแบบไหน ทำยังไงให้อยู่บนพื้นฐานที่มีความสุขที่สุด มีอยู่หลายๆ ช่วงเหมือนแบบที่ผมเบื่อแล้วรู้สึกว่าชีวิตในวงการมันไม่ใช่ แต่ที่สุดมันก็ต้องมองให้เป็นประสบการณ์แล้วมองหาสิ่งดีๆ รอบตัว คนที่ให้โอกาสและเป็นมิตรกับเราก็มีอยู่เยอะแยะมากมาย ทำให้สามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้”

   
งานชุกแล้วหัวใจเป็นยังไงบ้าง

     “4 ห้องหัวใจตอนนี้ผมเป็นสีแดงปกติ เหมือนความรักปกติ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่ใช่รูปแบบหนุ่มสาวเท่านั้นเอง ผมมีเรื่องครอบครัวเป็นหลัก เรื่องการทำงานผมก็เต็มที่มากขึ้น ก็เป็นช่วงที่ต้องทำงานเยอะขึ้นหน่อยเพราะมันปิดเทอมด้วย แต่   ชีวิตมันก็ค่อนข้างมีหลายด้าน อาจจะไม่ได้มีเวลาไปทำความรักเรื่องหนุ่มสาว แม้จะมีคุยกันก็ขอยังไม่พัฒนาความสัมพันธ์ ขอให้อยู่ในกรอบไปก่อน ด้วยสถานะเวลาหลายๆอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่คุยกับใครเลย คุยแบบให้เป็นแรงบันดาลใจ ก็ไม่ได้ มีปัญหาอะไร คือคิดว่าทุกคนก็คงเข้าใจ ถามว่า  มีไปดูหนังฟังเพลงปกติมั้ย ก็มีบ้างแต่ค่อนข้างน้อย เพราะงานหนัก”
 
“คุณแม่” ยังไม่ไฟเขียว “เรื่องแฟน” ด้วยรึเปล่า

     “ท่านไม่ห้ามครับ แต่จะคอยเตือนสติว่าอะไรถึงเวลาควรไม่ควร ตัวผมเองก็ไม่ได้รีบคิดเรื่องนี้ ด้วย แม่เป็นคนที่รับฟังและเข้าใจทุกอย่าง อนาคต ถ้าผมจะทำความรู้จักผู้หญิงสักคนมากกว่าความเป็นเพื่อน ก็ต้องแนะนำให้แม่ได้รู้จัก และคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่ตอนนี้ผมยังไม่มีแค่นั้น”
 
แพลนอนาคตที่วางไว้

     “ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมมองว่าถ้าถึงตอนนั้นยังมีความสุขก็พอแล้ว เพราะตอนนี้ผมก็ไม่ได้กดดันตัวเองอะไรมากมาย อย่างครอบครัวก็ฐานะปานกลางพออยู่ได้นะครับ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปขวนขวาย อะไรยิ่งใหญ่มากมาย ก็แค่ทำในสิ่งที่ชอบแค่นั้นเอง  ถึงตอนนั้นก็อาจพบอะไรบางอย่าง หรือใช้ชีวิตให้สบายที่สุด เพราะถ้าตอนนี้ผมเลือกมีความสุข พูดได้เลยแบบไม่ต้องคิดว่าเงินไม่ใช่ความสุข ถ้าถามว่าต้องค้นหาอะไรหรือเปล่า ผมก็คงไม่ต้อง แต่แค่หาความหมายในชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ให้มีความสุขที่ท้าทายแล้วนะ ไม่แน่ ผมอาจจะไปจับธุรกิจอะไรแล้วก็เป็นมหาเศรษฐีได้ แต่ตอนนี้คงยังไม่ใช่แล้วก็ยังไม่ถึงเวลา ขอแพลนชีวิตไปเรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไปก่อนจะดีกว่า”

  
“ตุ๊กแกรักแป้งมาก” พอใจกับฟีดแบ็คไหม

     “หนังเรื่องนี้เป็นหนังน่ารัก บรรยากาศจะอุ่นๆ ผมฟังจากหลายเสียงที่ได้ดู เขาก็ชอบภาพในหนัง ชอบบทบาทนักแสดง ตัวละคร ก็อบอุ่นดีครับ อยากให้ทุกคนไปให้กำลังใจหนังไทยเยอะๆ แต่ละเรื่อง ผู้กำกับฯ ทีมงาน นักแสดง เต็มที่มากๆ กับการถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้หนังไทยมากๆ ครับ”
 
อัพเดทผลงานของ “เก้า” หน่อย

     “ที่ได้เห็นกันอยู่ตอนนี้ ก็มีผลงานภาพยนตร์ ‘ตุ๊กแกรักแป้งมาก’ ของบริษัท Transformation Films ผลงานกำกับของ ‘ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค’ แล้วก็ซิงเกิ้ลเพลง ‘รักเธอคนเดิม’ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและให้กำลังใจผมมาโดยตลอด ฝากเป็นกำลังใจให้เก้ากับทุกๆ ผลงานด้วยครับ”