ก่อนหน้านี้หลายเดือนออกมาเปิดเผยว่าต้องกลับไปเรียนแพทย์ซึ่งได้ดร็อปไว้ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เห็นนายริทเดินทางกลับไปเรียนซักที เมื่อได้เจอเจ้าตัวเข้าจึงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ถึงประเด็นเมาท์ที่ว่า เหตุผลที่นายริทต้องกลับไปเรียนเป็นเพราะกระแสความดังไม่เทียบเท่าเพื่อนร่วมรุ่น The Star 6 อย่าง “กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ” และ “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” เจอข่าวเมาท์นี้เข้านายริทจะตอบว่ายังไงไปฟังกัน!
เคยบอกว่าต้องกลับไปเรียน?
“ได้ไปคุยกับอาจารย์เรียบร้อยแล้ว ประมาณเดือนตุลาคม เทอม 2 นี้ริทก็จะเริ่มไปทบทวนบทเรียนของปี 1 นะครับ จริงๆ ริทจบปีหนึ่งแล้วแต่จะไปทบทวนบทเรียนเพื่อให้ไม่ลืม ไปพบเพื่อน จะไปทบทวนบทเรียนทุกวิชาเวลาสอบก็ไม่ต้องสอบ ถ้าผ่านมาแล้วก็อาจจะแว่บมาทำงาน หลังจากเสร็จงานแล้วเรื่อยๆ จนถึงมิถุนายนปีหน้า ตอนนี้คือเราจะเข้าไปเรียนปี 2 แบบจริงจังแล้ว”
แสดงว่าตอนนี้ยังรับงานได้อยู่?
“ตอนนี้ยังได้อยู่ครับ”
แบ่งเวลายังไงทั้งงานทั้งเรียน?
“อันนี้ริทยังไม่ทราบจริงๆ ครับ ไม่รู้ว่ามีเวลามากน้อยแค่ไหน จะสามารถแบ่งเวลากับตัวเองได้มั้ย ถ้าเกิดจะแบ่งได้มั้ย ทำได้บ้างถ้าใช้เวลาไม่มาก เช่นละครนัดกับนัดที่อาจจะพอมาถ่ายได้ ที่ฟิคเวลาแน่นอนว่าเราไม่ขาดเรียนแน่นอน”
สัญญายังมีอยู่?
“อ่อ ยังอยู่ครับ เซ็นไว้ปกติคือ 5 ปีครับ”
กลัวเหนื่อยบ้างหรือเปล่า?
“ก็มีแอบๆ คิดเหมือนกันว่าอาจจะเหนื่อย แต่มันก็ต้องสู้ครับ เพราะเราเลือกอย่างนี้แล้วนะครับ ก็ต้องอดทนกันนิดนึง”
คุณพ่อว่าอย่างไรบ้าง?
“คุณพ่อคุณแม่ริทก็ดีใจ มันเป็นการตัดสินใจของริทเองว่า เอาล่ะริทไม่เรียนในกรุงเทพฯ แล้ว ขอเรียนที่ขอนแก่นเหมือนเดิม อยู่กับสถาบันเดิม กับครูคนเดิม กับสถานที่เดิม อยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิม”
กลัวมั้ยว่าจะเรียนไม่ทันเพื่อน?
“เพื่อนๆ เขาก็มีเรียนไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างน้อยก็มีเพื่อนเป็นที่ปรึกษา มีอะไรริทจะได้ถามๆ ได้”
มีกระแสว่าเพราะผลงานไม่โด่งดังเท่า “กัน” กับ “โตโน่” รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“เปล่าครับ จริงๆ ริทตั้งใจจะดร็อปเรียนแค่ปีเดียว เสร็จปุ๊บงานไม่หยุดจริงๆ หลังจากมิถุนายนปีที่ผ่านมานี้ คือตอนนั้นริทเริ่มหยุดรับงานหมดแล้ว ริทจะกลับมาเรียน แต่ในเมื่อมันไม่ทัน ไปคุยกับทางมหา’ลัยก็เข้าใจ คุยกันเรียบร้อย เลยเพิ่งมารับงานใหม่ที่หยุดรับงานไป เสร็จปุ๊บคือค่อยๆ ลดลง เพราะว่าไม่อยากให้มีปัญหาครับ”
เวลาไปเรียนที่ขอนแก่นกลัวจะห่างเหินกับแฟนคลับหรือเปล่า?
“ก็ห่างเหิน แต่ว่าคือเวลาเจอกันทุกคนเข้าใจว่าริทต้องไปเรียน 5 ปีเป็นอย่างต่ำ ทุกคนให้คำสัญญาว่าจะอยู่รอริท ซึ่ง 5 ปีข้างหน้าอาจจะไม่มีแฟนคลับเยอะเท่าเดิม หรือว่าไม่มีคนรักคนชอบ จำริทได้เหมือนเดิมก็ต้องทำใจ เพราะว่าเราเลือกที่จะเดินไปเรียน 5 ปีนั้น ถ้ากลับมายังคงมีคนจำริทได้เหมือนเดิม มีแฟนคลับเท่าเดิม อาจจะกลับมาได้ ในเมื่อไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้ วาดฝันไว้ ก็ไม่เป็นไร”
แสดงว่ามีทำใจไว้บ้างแล้วถ้ากลับมาอาจจะไม่ดังเหมือนเดิม?
“มันก็ไม่ถึงขนาดทำใจ คืออนาคตมันก็คืออนาคต อีก 5 ปีไม่รู้เป็นอย่างไรแล้ว เราไม่ได้ทำตรงนี้ก็ไม่เป็นไร เป็นหมอได้ มุ่งด้านหมออย่างเดียวเลยก็ได้ แต่ถ้าเกิดมีตรงนี้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ดี อาจจะได้เป็นหมอที่อยู่ในวงการบันเทิง ก็ดีไปอีกแบบหนึ่ง”
มีความคิดบ้างมั้ยที่จะเป็นหมอรักษาผิวหน้า?
“เคยคิดเหมือนกัน อย่างตอนแรกริทตั้งใจว่าจะเป็นอายุรแพทย์ เพราะว่าจะได้ดูแลรักษาพ่อแม่แน่นอน คิดตื้นๆ แบบเด็กๆ เลย พอได้มาทำงานวงการบันเทิง มีเรื่องของความสวยความงาม หรือเป็นหมอสกินดี เอามาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ริทได้คุยแลกเปลี่ยนความรู้กับหมอโอ๊คบ้างเหมือนกัน”
เรียนจบจะกลับมาทำงานวงการบันเทิงต่อเลย?
“มันตอบไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะต้องรออีก 5 ปีเป็นอย่างต่ำ จะจบหรือเปล่า ถ้าเกิดกลับมาได้ริทก็โอเค แฮปปี้ดีใจ ถ้ากลับมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ” ♦
